3 พฤศจิกายน 2560

มิติที่ 6 ไขปริศนา คิซะระงิ ตำนานสถานีรถไฟแห่งโลกวิญญาณ !!!




เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2560 แฟนเพจเฟสบุคชื่อ Japanese, snake snake fish fish  ของประเทศไทย ได้โพสต์เรื่องราวแปลกประหลาดเรื่องหนึ่ง ที่ทางเพจบอกกับสมาชิกว่า ไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า ? แต่ที่แน่ ๆ มันเป็นตำนานของญี่ปุ่นไปอีกเรื่องหนึ่งแล้ว และนั่นจึงทำให้มีผู้ชมจำนวนมากส่งโพสต์เรื่องเล่าดังกล่าวมาให้กับมิติที่ 6

กดเพื่อดูคลิปที่นี่


มิติที่ 6 ศุกร์สยองขวัญ กับเรื่องราวเบา ๆ ในวันศุกร์สะดวกสัปดาห์นี้ จากเรื่องราวที่ถูกสอบถามกันมามากมาย ของหญิงสาวคนหนึ่งที่หายตัวไประหว่างการสนทนากับเพื่อน ๆ บนเว็บไซต์ 2Ch.net ณ สถานีรถไฟฟ้าลึกลับแห่งหนึ่ง ว่าแท้ที่จริงแล้ว... มันคืออะไรกันแน่ ?




โดยเรื่องราวนั้นมีอยู่ว่า


เมื่อหลายปีก่อนมีผู้หญิงคนหนึ่งได้เข้ามาเขียนข้อความลงในหมวดเรื่องลี้ลับ ของเว็บไซต์กระดานข่าวรูปภาพ 2Ch ในโพสต์นั้นเธอเล่าว่าตอนนี้กำลังนั่งรถไฟฟ้าเอกชนสายหนึ่ง เพียงแต่ในช่วงเวลานั้นมีอะไรแปลก ๆ บางอย่างจนเธอรู้สึกได้


เธอบอกว่ามันเป็นรถไฟฟ้าสายที่ใช้นั่งไปทำงานทุกวัน ที่ปกติมันจะต้องหยุดจอดตามสถานีทุก 5 - 7 นาที แต่วันนี้มันวิ่งโดยไม่หยุดมาเกือบจะ 20 นาทีแล้ว ในรถไฟฟ้าก็มีผู้โดยสารคนอื่นอยู่อีก 5 คน ที่กำลังนั่งหลับราวกับพวกเขามั่นใจว่ายังไม่ถึงที่หมาย


สมาชิกในกระทู้ดังกล่าวจึงให้เธอตรวจสอบให้ดีว่า เธอนั่งอยู่ในรถไฟฟ้าสายดังกล่าวจริงหรือเปล่า เพราะมันก็เป็นไปได้ว่าเธออาจจะไปขึ้นรถไฟฟ้าสายธรรมดาที่ใช้ความเร็วปกติ ซึ่งเจ้าของเรื่องเองก็ไม่แน่ใจและขอลองนั่งต่อไปอีกสักพัก


สมาชิกในกระทู้อีกคนจึงโพสต์แนะนำให้เธอลองเดินไปที่ตู้แรก เพราะที่นั่นมันเป็นตู้ที่จะทำให้เธอสามารถติดต่อกับพนักงานขับรถไฟฟ้าได้ ซึ่งเธอก็ได้ทำตามคำแนะนำนั้น แต่เมื่อเธอเดินไปถึงก็พบว่า กระจกห้องพนักงานนั้นมีม่านปิดกั้นเอาไว้ ทำให้ไม่สามารถมองเห็นใครในนั้นได้


นั่นจึงทำให้สมาชิกในกระทู้อีกคนบอกให้เธอลองเคาะกระจกดู ซึ่งเธอก็ทำตามและพิมพ์กลับว่าไม่มีใครตอบกลับมาจากห้องบังคับเลย โดยในตอนนี้หญิงสาวเจ้าของเรื่องได้ระบุชื่อตัวเองว่าเธอชื่อ ฮะสุมิ (はすみ) !


ฮะสุมิโพสต์ในเวลาต่อมาว่า ตอนนี้รถไฟฟ้าเริ่มลดความเร็วลงหลังจากที่มันเพิ่งวิ่งออกจากอุโมงค์แห่งหนึ่ง ซึ่งเธอนั้นจำได้ว่าปกติรถไฟฟ้าสายนี้ไม่เคยวิ่งผ่านอุโมงค์แบบนี้มาก่อน เพราะมันเป็นรถไฟฟ้าที่วิ่งมาจากสถานีชินฮะมะมัตสึ จนเมื่อรถไฟฟ้าขบวนนี้หยุดวิ่ง
ฮะสุมิจึงโพสต์บอกกับทุกคนว่ามันมาจอดที่สถานีแห่งหนึ่ง โดยระบุว่าที่นี่คือ สถานีคิซะระงิ ไม่มีใครอยู่ที่นี่และเธอเองก็ไม่เคยได้ยินชื่อสถานีแห่งนี้มาก่อน สมาชิกคนอื่น ๆ จึงถามเธอเพื่อจะได้ช่วยกันหาว่า จริง ๆ แล้วตอนนี้เธอน่าจะขึ้นรถไฟฟ้าขบวนใด และกำลังอยู่ที่ไหนกันแน่ แต่เมื่อนำข้อมูลเวลาออกจากสถานีไปตรวจสอบในอินเทอร์เน็ตก็ไม่มีใครสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมพบ
สิ่งที่สมาชิกในกระทู้ดังกล่าวรู้ในตอนนั้นก็คือ โพสต์ของฮะสุมิที่บอกกับพวกเขาว่า เธอลองเดินลงจากรถไฟฟ้ามาดูเช่นกัน แต่ที่โชคร้ายก็คือตอนนี้รถไฟฟ้าขบวนดังกล่าวได้วิ่งออกจากสถานีไป ปล่อยทิ้งเธอไว้ให้อยู่ที่นี่เพียงคนเดียว !


เมื่อเหตุการณ์กลายเป็นแบบนี้ จึงมีสมาชิกบางคนแนะนำให้ฮะสุมิลองเดินออกไปจากสถานี เผื่อว่าอย่างน้อยเธออาจจะได้พบบ้านคน แท็กซี่ หรือไม่ก็สถานีตำรวจสักแห่ง ซึ่งเธอก็ตอบกลับมาว่า เธอได้ทำตามคำแนะนำทุกอย่างแล้ว เพียงแต่นอกสถานีดังกล่าวมันไม่มีอะไรให้เห็นเลย นอกจากภูเขาและทุ่งหญ้า


ฮะสุมิจึงลองโทรศัพท์กลับไปทางบ้าน แต่พ่อแม่ของเธอก็ไม่รู้ว่าจะไปรับได้ที่ตรงไหน เพราะพวกเขาเองก็ไม่รู้จักสถานีคิซะระงิเช่นกัน สมาชิกในกระทู้เองก็แนะนำให้เธอลองเดินไปดูที่ป้ายบอกสถานีว่าสถานีก่อนหน้ากับสถานีถัดไปนั้นชื่อว่าอะไร เธอก็ตอบกลับมาว่ามันไม่มีชื่อสถานีอะไรระบุให้เห็นเลย นอกจากชื่อของสถานีคิซะระงิเพียงแห่งเดียวเท่านั้น !


พอมาถึงตรงนี้บางคนจึงแนะนำให้เธอลองเดินย้อนกลับมาตามรางของรถไฟฟ้า ในขณะที่บางคนก็แนะนำให้เธอรอจนถึงเช้าแล้วค่อยว่ากันต่อจะดีกว่า ซึ่งฮะสุมิเองก็ตัดสินใจที่จะเดินตามทางรถไฟฟ้าย้อนกลับไปตามคำแนะนำแรก


ในระหว่างการเดินกลับนั้น ฮะสุมิเล่าว่าทางบ้านของเธอได้โทรศัพท์มา โดยบอกว่าพวกเขาไม่รู้ว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหนกันแน่ และแนะนำให้เธอลองโทรศัพท์หาเจ้าหน้าที่ตำรวจดีกว่า ซึ่งเธอก็ทำตามคำแนะนำนั้น แต่กลับกลายเป็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจคิดว่าเธอน่าจะโทรศัพท์มาแกล้ง นั่นจึงทำให้ฮะสุมิสิ้นหวัง วางสายแล้วพยายามเดินต่อไป


ในเวลาต่อมาฮะสุมิจึงได้โพสต์บอกในกระทู้ต่อ ว่าตอนนี้เธอได้ยินเสียงตีกลองและเสียงกระดิ่งดังแว่วมาจากที่ไหนสักแห่ง ตอนนี้เธอรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก แค่จะหันกลับไปมองข้างหลังก็ยังไม่กล้า เพราะเมื่อสักครู่นี้เธอเพิ่งได้ยินเสียงเหมือนกับชายวัยกลางคน ตะโกนเรียกมาจากทางด้านหลังของเธอ เสียงนั้นถามเธอว่าลงไปเดินบนทางรถไฟฟ้าทำไม มันอันตรายรู้ไหม ?

ซึ่งในที่สุดฮะสุมิก็ตัดสินใจหันหลังกลับไปมองตามที่มาของเสียง แล้วสิ่งที่เธอเห็นนั่นก็คือร่างของชายวัยกลางคนที่กำลังยืนด้วยขาเพียงข้างเดียว สักพักชายคนดังกล่าวก็ค่อย ๆ หายไปในความมืด


ฮะสุมิเล่าต่อว่าตอนนี้เธอกลัวจนเดินต่อไปไม่ไหว ในขณะที่สมาชิกในกระทู้พยายามบอกให้เธอเดินออกจากอุโมงค์ไปก่อน จากนั้นค่อยหาคนมาช่วยจะดีกว่า ซึ่งฮะสุมิเองก็เลือกที่จะเดินต่อไปจนถึงปากทางอีกฝั่ง และบอกเพิ่มเติมว่าตอนนี้เธอพบกับชายวัยคุณลุงที่อาสาจะขับรถพาเธอไปส่งสถานีใกล้ที่สุดให้ ก่อนที่เธอจะกล่าวขอบคุณสมาชิกในกระทู้ทุกคน ท่ามกลางข้อความที่พยายามคัดค้านในการตัดสินใจของเธอ โดยให้เหตุผลว่าเวลาตีสามแบบนี้ มันจะไปมีคุณลุงใจดีที่ไหนโผล่มาได้พอดิบพอดีแบบนั้น


ในเวลาต่อมาฮะสุมิได้โพสต์ข้อความบอกเล่าต่อว่า ตอนนี้เธอขึ้นรถมากับชายคนดังกล่าวแล้ว นั่นจึงทำให้สมาชิกอีกคนถามเธอว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน ? ฮะสุมิจึงถามกับชายใจดีคนนั้น แล้วก็ตอบกลับมาในความเห็นว่า เธอกำลังอยู่แถวสถานที่ชื่อ "ฮินะ"


ขณะที่ทุกคนกำลังงงกันว่าสถานที่ดังกล่าวมันคือที่ไหนกันแน่ ฮะสุมิก็โพสต์ข้อความบอกต่อว่าตอนนี้ คุณลุงใจดีขับรถพาเธอไปทางภูเขา โดยไม่ยอมพูดจาอะไรกับเธอเลยแม้แต่น้อย นั่นจึงทำให้สมาชิกคนอื่น ๆ แนะนำให้เธอรีบโทรศัพทแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดีกว่า พอมาถึงตรงนี้เธอก็ได้โพสต์ข้อความสุดท้ายบอกกับทุกคนว่า เธอเองก็ไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นอีกหรือเปล่า แต่อย่างน้อยก็ขอบอกให้ทุกคนรู้เรื่องราวทั้งหมด และตอนนี้โทรศัพท์มือถือของเธอแบตกำลังจะหมดแล้ว


และในที่สุดการสนทนาทุกอย่างก็จบลง โดยไม่มีใครพิมพ์อะไรกันต่อไป




--จบ--


คิซะระงิเอคิ หรือ ตำนานสถานีรถไฟคิซะระงิ เป็นผลงานการเขียนของสมาชิกนิรนามจากเว็บไซต์กระดานข่าวรูปภาพ 2Ch ของประเทศญี่ปุ่น ที่เขียนเอาไว้ตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคม ค.ศ. 2004 ใช้เทคนิคการเล่าแบบถามมาตอบไป โดยเปิดให้สมาชิกที่มาร่วมสนุกในกระทู้เป็นผู้ตั้งคำถาม และผู้เล่าเป็นผู้ตอบไปเรื่อย ๆ ให้เหมือนกับว่าฮะสุมิในเรื่องนั้นกำลังเผชิญหน้าอยู่กับเหตุการณ์อันน่ากลัวตรงนั้นจริง ๆ

กดเพื่อดูเรื่องเล่าใน 2Ch


โดยเรื่องนี้มันเริ่มเมื่อวันที่ 8 มกราคม ค.ศ. 2004 ในวันนั้นมีผู้ตั้งกระทู้ขึ้นมาในหมวดเรื่องราวลึกลับของเว็บไซต์ 2Ch ภายใต้ชื่อกระทู้ที่ว่า “หัวข้อที่ 26: โพสต์เรื่องแปลกรอบตัวคุณกันเถอะ”
โดยระหว่างการโพสต์ของสมาชิกมาจนถึง ความคิดเห็นที่ 98 ก็มีสมาชิกนิรนามคนหนึ่งเปิดประเด็นขึ้นมาว่า “มีเรื่องที่ไม่แน่ใจว่าคิดไปเองหรือเปล่า จะลองฟังเรื่องนี้ดูไหม ?”

98 :あなたのうしろに名無しさんが・・・:2004/01/08 23:14

気のせいかも知れませんがよろしいですか?
จากนั้นก็มีสมาชิกนิรนามอีกคน ได้ขอให้ใครคนนั้นลองเล่าดู ในขณะที่สมาชิกอีกคนก็ถามขึ้นมาด้วยความสนใจเช่นกัน นั่นจึงทำให้สมาชิกนิรนามคนแรกเริ่มเล่าเรื่องของตัวเองให้ฟัง ซ่ึ่งเนื้อหาก็คือเรื่องราวของฮะสุมิกับการเดินทางไปยังสถานีรถไฟคิซะระงิแห่งนี้


โดยในช่วงแรกนั้นสมาชิกผู้อ้างตัวเองว่าคือผู้ประสบเหตุ ยังไม่ได้บอกว่าตัวเองชื่ออะไร ในขณะที่สมาชิกคนอื่น ๆ พากันตั้งคำถามกับเจ้าของเรื่องไปเรื่อย ๆ
จนมาถึง ความคิดเห็นที่ 137 สมาชิกนิรนามคนดังกล่าวจึงเริ่มใช้ชื่อของตัวเองว่าฮะสุมิ ตามด้วยรหัสสมาชิกให้ทราบว่า ผู้ที่เล่านี้เป็นคนเดียวกันทั้งหมดจริง ๆ
137 :はすみ ◆KkRQjKFCDs:2004/01/09 00:08

窓を叩いてみたのですが返事はなかったです。

จากการค้นหาวิธีการใช้เว็บบอร์ดกระดานรูปภาพแห่งนี้ พอจะทราบว่าโดยปกติการที่สมาชิกจะสามารถระบุชื่อแบบถาวรได้นั้น จะต้องเสียเวลาเข้าไปสมัครขอไอดีกับทางระบบให้เสร็จสิ้นเสียก่อน

ดังนั้นการเล่าเรื่องสถานีคิซะระงิของสมาชิกที่ชื่อฮะสุมินั้น จึงน่าจะเป็นการเล่าอย่างใจเย็น มีเวลามากพอที่จะคิดว่าตัวเองควรจะสมัครไอดีเพื่อระบุชื่อเอาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้มีใครมาแอบอ้างเปลี่ยนทิศทางเนื้อเรื่องของตัวเอง
โดยใช้เวลาเล่าตั้งแต่เริ่มเรื่องเมื่อเวลา 23:14น. ของวันที่ 8 มกราคม ค.ศ. 2004 ไปจบเรื่องในเวลา 3:41น. ของวันถัดไป รวมใช้เวลาไปทั้งสิ้น 4 ชั่วโมง 27 นาที ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ที่คนกำลังเจอเหตุการณ์คับขันจะมีเวลาคิดว่าตัวเองจะต้องสมัครเข้าระบบเพื่อขอไอดีระบุตัวตนแน่ ๆ

กดเพื่อดูเรื่องเล่าใน Japanese, snake snake fish fish (คนที่ 1)

กดเพื่อดูเรื่องเล่าใน Japanese, snake snake fish fish (คนที่ 2-4)

มิติที่ 6 จึงขอสรุปว่า เรื่องสถานีรถไฟคิซะระงิเป็นเพียงเรื่องที่ถูกแต่งขึ้นมา โดยหลังจากที่เรื่องนี้เริ่มถูกพูดถึงกันในโซเชียลเน็ตเวิร์กของประเทศญี่ปุ่น ก็มีสมาชิกเว็บบอร์ดคนอื่น ๆ เริ่มแต่งเรื่องต่อยอดโดยใช้พล็อตของสถานีรถไฟแห่งนี้ตามมาอีก 4 เรื่อง

หลังจากนั้นเรื่องเล่าอีก 4 เรื่องที่ตามมานั้นไม่สามารถทำให้เกิดกระแสใด ๆ ตามมาได้อีกเลย เพราะทุกคนในเว็บไซต์ 2Ch รู้กันหมดแล้วว่ามันเป็นเพียงเรื่องที่ถูกแต่งขึ้นมา


เพียงแต่ในเวลาต่อมาเรื่องราวเกี่ยวกับสถานีรถไฟคิซะระงิทุก ๆ เรื่อง ได้ถูกเว็บไซต์ภายนอกนำไปเล่าใหม่อีกครั้ง มันก็เลยทำให้ชาวเน็ตทั่วไปเพิ่งจะมาพบกับเรื่องราวนี้ และเริ่มพูดถึงกันออกไปเป็นวงกว้างราวกับว่ามันเป็นเรื่องที่น่าจะเกิดขึ้นจริง
จนในที่สุดเรื่องราวดังกล่าวจึงถูกนำมาแปลลงเว็บไซต์ Creepypasta เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ค.ศ. 2012 ได้เรตติ้งไปถึง 8.5/10 ทั้ง ๆ ที่ผู้โพสต์ได้บอกไว้ตั้งแต่ย่อหน้าแรกว่าเรื่องนี้มีที่มาอย่างไร ซึ่งก็นับได้ว่าเป็นหนึ่งในเรื่องเล่าจากประเทศญี่ปุ่น ที่สามารถสร้างความน่ากลัวให้กับนักอ่านทั่วโลกได้อย่างเท่าเทียมกัน

กดเพื่อเข้าดูในครีบปี้พาสต้า


ดังนั้นถ้าหากมีใครนำเรื่อง "สถานีคิซะระงิ" หรือ "สถานีรถไฟฟ้าแห่งโลกวิญญาณ" เรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟังในวงสนทนา มิติที่ 6 ก็อยากจะบอกกับท่านผู้ชมว่า ขอจงอย่าได้ไปทำอะไรที่จะทำให้เรื่องเล่าเรื่องนี้ต้องหยุดชะงักไประหว่างทางจะดีเป็นที่สุด นั่นก็เป็นเพราะว่าความจริงนั้น มันช่างไม่มีเสน่ห์..เอาเสียเลย !

อย่าลืมติดตามรายการมิติที่ 6 ศุกร์สยองขวัญ กับเรื่องราวเบา ๆ พร้อมกับที่มาของมันกันได้ทุกวันศุกร์สะดวก และหลังจากจบรายการแล้ว อย่าลืมกดสับสไครป์ กดไลก์ กดแชร์ และอย่าลืมทิ้งคอมเมนต์กันไว้ด้วยนะครับ ยังมีเรื่องราวต่าง ๆ อีกมากมายรอคุณอยู่ สำหรับวันนี้... สวัสดี !

แปลและเรียบเรียงโดย นิวัฒน์ อ่ำแสง
ภาพวาดจาก: GAIN さん
ขอบคุณที่มา:
Creepypasta - KISARAGI STATION
怖い系 - きさらぎ駅 (ยกข้อความมาจาก 2Ch.net)
Facebook - Japanese, snake snake fish fish

แท็ก: Kisaragi Station, สถานีรถไฟฟ้า, คิซะระกิ, คิซะระงิ, きさらぎ駅

--------
[ภาคผนวก]
ต่อจากตำนานเรื่อง "สถานีรถไฟฟ้าคิซะระกิ" ของคนที่ 1
- คนที่ 2 -
หลังจากที่ฮะซุมิโพสข้อความว่าตนเองหลงเข้าไปที่สถานีคิซะระกิในปี ค.ศ. 2004 ก็มีอีก 3 คนออกมาบอกว่าได้หลงไปที่สถานีคิซะระกิมาเช่นกัน โดยคนที่ 2 บอกว่าตนเองนั้นคือฮะซุมิ แต่เมื่อชาวเว็บได้ลองสืบดูแล้วกลับพบว่าเป็นตัวปลอม (ทั้ง 4 คนเป็นผู้หญิง และของคนแรกน่าจะหลอนที่สุดแล้ว)

สำหรับคนที่ 3 และคนที่ 4 นั้น คนญี่ปุ่นที่เชื่อเรื่องลึกลับหรือตำนานยังแอบรู้สึกเชื่อบ้างว่าอาจจะเกิดขึ้นจริง
เหตุการณ์ของคนที่ 3 เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 2012 และเหตุการณ์ของคนที่ 4 เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 2014 ทั้งคู่ใช้ทวิตเตอร์ในการสื่อสารกับคนในโซเชี่ยล
- คนที่ 3 -
คนที่ 3 นั้นก้มหน้าก้มตาเล่นมือถืออย่างเดียวขณะที่ขึ้นรถไฟฟ้า มารู้สึกตัวอีกทีตอนที่เสียงคนประกาศในรถไฟฟ้าเปลี่ยนจากเสียงผู้หญิงกลายเป็นเสียงผู้ชายว่า "ต่อไปเป็นสถานีปลายทาง สถานีคิซะระกิ !" เวลาตอนที่เธอกำลังจะลงจากรถไฟฟ้าเป็นเวลาประมาณสองทุ่ม แต่เมื่อเธอดูเวลาที่สถานีกลับกลายเป็นเวลาประมาณ 23:00 น.
เธอได้ทวิตข้อความลงในทวิตเตอร์ถามทุกคนว่าสถานีคิซะระกิคือที่ไหน ที่สถานีเธอไม่เห็นใครเลย ประตูทางออกก็เปิดไม่ได้เพราะเหมือนไม่ได้ต่อกับระบบจ่ายไฟ กระดาษแสดงเวลารถไฟฟ้าเข้าออกก็เปื่อยยุ่ยจนอ่านไม่ได้ ไฟส่องสว่างที่สถานีก็เป็นหลอดไฟกลมเล็กๆสลัวๆ มือถือก็ไม่สามารถแสดงที่อยู่ปัจจุบันของตนเองได้
สักพักเธอก็ได้ยินเสียงกระดิ่งดังขึ้นมาแต่ไกล ชาวเน็ตเตือนเธอว่าห้ามเดินไปทางเสียงกระดิ่งเด็ดขาด ถ้าเห็นอุโมงค์ห้ามเดินทะลุอุโมงค์ออกไปเพราะจะกลับมาไม่ได้ ถ้าเจอใครเรียกก็ห้ามคุยห้ามทักเด็ดขาด แม้กระทั่งห้ามกินหรือดื่มเครื่องดื่มที่เจอที่สถานีนี้ และก็มีชาวเน็ตคนหนึ่งบอกกับเธอว่าให้เผากระดาษอะไรก็ได้ให้มีควันแล้วจะหลุดออกมาที่นั่นได้ แต่ปัญหาก็คือเธอไม่มีไฟแช็คหรืออะไรก็ตามที่สามารถจุดไฟได้ เธอพยายามโทรหาทุกคนที่เธอรู้จักแต่ก็เหมือนกับอีกฝั่งสายไม่ว่าง แต่พอมีคนโทรมาหาเธอและเมื่อเธอรับสายกลับไม่ได้ยินเสียงอีกฝ่าย
เมื่อเธอถูกทุกคนในเน็ตบอกห้ามทำโน่นทำนี่ เธอก็เลยไปนั่งที่ม้านั่งบนสถานีและเธอก็ทวิตข้อความลงทวิตเตอร์ว่า...
"พอนั่งที่ม้านั่งแล้วเผลอหลับ จะรู้สึกเหมือนมีใครมียืนล้อมรอบตัวเองจนตกใจตื่น แต่พอตื่นขึ้นมาก็ไม่เห็นใคร"
เวลาผ่านไปเธอเริ่มจำชื่อตัวเองไม่ได้ คนในเน็ตก็บอกเธอว่าให้จดชื่อตัวเองเอาไว้ในกระดาษหรือโทรศัพท์
เวลาที่สถานีหยุดอยู่ที่เที่ยงคืนเจ็ดนาทีแล้วก็ไม่ยอมเดินต่อ ด้วยความเหนื่อยล้าปนความง่วงสุดท้ายเธอก็หลับไป
เธอตื่นขึ้นเพราะได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เพื่อนของเธอโทรเข้ามาและเธอก็รู้ตัวอีกทีว่าตอนนี้อยู่ที่สถานีโอะดะวะระ เธอคิดว่าทั้งหมดคือความฝัน แต่เมื่อลองดูประวัติการทวิตข้อความกลับมีข้อความเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดบันทึกไว้ในทวิตเตอร์อยู่

- คนที่ 4 -
สำหรับคนที่ 4 นั้น เหตุการณ์เกิดขึ้นตอนที่เธอมีนัดที่จะต้องไปสถานีคะวะซะคิแต่ตัวเองก็ดันลืมเอาแผนที่ของจุดนัดหมายไปด้วย เวลาที่เธอทวิตข้อความตอนต้นเรื่องคือประมาณเกือบๆเที่ยงวัน หลังจากที่เธอขึ้นรถไฟฟ้าไปสักพัก ก็เริ่มรู้ตัวว่าหลงทางและคงจะไปไม่ทันนัดเลยทวิตข้อความลงทวิตเตอร์ไปว่า...
"ไปสายแน่นอน ช่วยบอกคนอื่นด้วยว่าหลงทางแล้ว"
ระหว่างที่อยู่บนรถไฟฟ้าเธอพยายามสังเกตว่าตนเองอยู่ที่ไหน แต่ก็ไม่อาจรู้ได้และรถไฟฟ้าก็วิ่งไม่หยุด ผ่านไปสามสถานีก็ไม่ยอมหยุด ในรถไฟฟ้าก็ไม่มีคนขึ้นเลย โทรศัพท์ก็ได้ยินเสียงของอีกฝั่งไม่ชัด มารู้สึกตัวอีกทีก็หลงไปถึงสถานีชินฮะมะมะสึ (สถานีเดียวกับที่ฮะซุมิขึ้นรถไฟฟ้า) จะถ่ายรูปเมมในมือถือก็ไม่พอ เพื่อนของเธอก็ได้ทวิตข้อความบอกเธอว่า...
"สถานีชินฮะมะมะสึเป็นสถานีบ้านนอกนะ ไม่ได้เป็นรถไฟฟ้าของ JR (Japan Railway) ด้วย รถไฟฟ้าที่ผ่านสถานีชินฮะมะมะสึจะเป็นรถสีแดง ตกลงแกกำลังจะไปไหนกันเนี่ย"
หลังจากที่รถไฟฟ้าผ่านสถานีชินฮะมะมะสึก็วิ่งเข้าอุโมงค์ตลอด เวลาในมือถือกลายเป็นตอนเย็น 17:00 น.ทั้งๆที่เธอขึ้นรถไฟฟ้าตอนเกือบเที่ยง มือถือก็ไม่สามารถแสดงตำแหน่งที่อยู่ปัจจุบันได้ รถไฟฟ้าวิ่งอยู่ในอุโมงค์นานเป็นชั่วโมงจนเธอก็ไม่รู้ว่าสถานีต่อไปคือสถานีอะไร เธอลองโทรหาทุกคนที่รู้จักแต่ก็โทรไม่ติด
ตอนนั้นเพื่อนของเธอที่คิดว่าเธอน่ากำลังจะหลงเข้าไปที่สถานีคิซะระกิก็ทวิตข้อความเตือนเธอว่า ห้ามลืมชื่อตัวเอง ห้ามกินหรือดื่มเครื่องดื่มที่หาได้จากที่นั่น ห้ามขึ้นรถคนแปลกหน้า ห้ามเดินลอดอุโมงค์ออกไป และห้ามหลับ
พอรถไฟฟ้าออกจากอุโมงค์ก็จอดที่สถานีคิซะระกิ เธอได้ยินเสียงประกาศว่าสถานีต่อไปคือสถานีคะตะซุ จากนั้นไม่นานก็ได้ยินเสียงกระดิ่งหรือเสียงเหมือนมีอะไรแตก แล้วเธอก็เห็นสิ่งของที่คล้ายกับซากแมลงที่เปื้อนของเหลวสีดำแดงร่วงหล่นลงมา ด้วยความสงสัยจึงทำให้เธอเผลอลงจากรถไฟฟ้า จากนั้นเธอได้เดินไปที่ประตูทางออก (หยอดบัตร) ก็มองเห็นบ้านคนอยู่ข้างหน้า
สำหรับคนที่ 4 นั้น ไม่มีการระบุถึงเหตุการณ์ต่อจากนั้นอย่างชัดเจน คาดว่าคนในเน็ตพยายามทวิตบอกให้เธอกลับมา และข้อความหลังจากที่เธอทวิตว่าเห็นบ้านคน เธอได้บอกว่าอยู่ในรถไฟฟ้าแล้ว กำลังไปสถานีอุเอะโนะ ซึ่งเพื่อนๆของเธอก็รู้สึกดีใจที่เธอหลุดรอดกลับมาได้

----------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ประกาศ

เพื่อเป็นกำลังใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กับเรา ขอความร่วมมือจากผู้ที่นำเรื่องราวจากมิติที่ 6 ไปใช้ในที่ของท่าน กรุณาลงเครดิตกลับมาที่เราจะเป็นพระคุณอย่างสูงครับ