13 พฤษภาคม 2559

มิติที่ 6 ศุกร์สยองขวัญ ไขปริศนารถไฟหายไปในอุโมงค์ 42 ปี


บนโลกใบนี้ มีปริศนาต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย หลายเรื่องราวที่เกิดขึ้นมา ล้วนแล้วแต่ต้องการหาคำตอบ ซึ่งมิติที่ 6 ศุกสยองขวัญ ในวันเบา ๆ ศุกร์สะดวกสัปดาห์นี้ เราจะพาคุณไปพบกับเรื่องราวของรถด่วนขบวนปริศนา ที่ได้หายไปอย่างแปลกประหลาด และต่อมาหลังจากที่มันหายไปนานหลายปี ก็ได้เกิดเรื่องที่ทำให้ทั่วโลกต้องงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งมิติที่ 6 อยากให้ทุกท่าน มาร่วมชม ร่วมฟัง และร่วมไขปริศนานี้ไปพร้อม ๆ กัน



หลังจากที่มีผู้ชมหลายท่านได้แนะนำ และสอบถามมิติที่ 6 เกี่ยวกับเรื่องราวของรถไฟที่วิ่งหายเข้าไปในอุโมงค์อย่างไร้ร่องรอย เราก็ได้พยายามค้นหาเรื่องราวปริศนานี้จนพบ ซึ่งเราจะขออ่านโดยไม่มีการตัดทอน หรือดัดแปลงข้อความต้นฉบับให้ท่านได้รับทราบกันก่อน

ภาพประกอบทั้งหมดไม่เกี่ยวกับเนื้อหา

 ดูบนยูทูป กดที่นี่

เรื่องประหลาดนี้เกิดขึ้นที่ประเทศอิตาลี บรรดาเจ้าหน้าที่รัฐบาลพากันปิดปากเงียบ ที่ขบวนรถด่วนขบวนหนึ่งพร้อมกับผู้โดยสารหายลึกลับอย่างไร้ร่องรอย ขณะเคลื่อนเข้าไปในอุโมงค์แห่งหนึ่งเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๒ แล้วจู่ ๆ โผล่ออกมาอีกในสภาพเดิมทุกอย่าง เมื่อต้นปีนี้ คือ พ.ศ. ๒๕๓๕

ที่ประหลาดยิ่งขึ้น ผู้โดยสารจำนวน ๑๒๐ คน และพนักงานประจำรถ ๓ คน มีอายุเท่ากับวันที่หายเข้าไปในอุโมงค์ไม่มีใครแก่อายุมากขึ้นสักวันเดียว รูปร่างเหมือนเดิมทุกอย่าง และพวกเขายังเชื่อว่า ทุกวันนี้ยังเป็น พ.ศ. ๒๔๙๒ อยู่

รัฐบาลอิตาลีเก็บเรื่องนี้เงียบที่จะพูดถึงขบวนรถด่วนหมายเลข เอฟ ๖๒๖ และยังไม่ยอมพูดถึงว่าเอาขบวนรถนั้นไปไว้ที่ไหนด้วย  ไม่ใช่แต่เพียงเท่านั้น ยังคอยจับตาผู้โดยสารทุกคน เว้นแต่มี ๒ คน ที่เป็นชาวต่างประเทศหลบหนีการสอบสวนไป  ส่วนพนักงานประจำรถ ๓ คน รัฐบาลได้เก็บตัวไว้ในสถานที่หนึ่ง ไม่ยอมเปิดเผยต่อสาธารณชน

ข่าวการหายไปของขบวนรถด่วน เอฟ ๖๒๖ หายลึกลับไป ๔๒ ปี และโผล่กลับมาอีกนั้น แม้ว่าทางการพยายามปิดข่าว แต่หนังสือพิมพ์อิตาลีเกือบทุกฉบับสามารถที่จะติดตามมาเสนอได้ พยานที่ได้รับทราบเหตุการณ์ครั้งนี้เผย ตั้งแต่เริ่มต้นที่ขบวนรถด่วนนี้มีด้วยกัน ๑๓ โบกี้ หายเข้าไปในอุโมงค์รถไฟที่มีความยาว ๑ ใน ๔ ไมล์ อย่างลึกลับไม่ยอมโผล่ออกไปอีกทางหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงปิดอุโมงค์ทำการค้นหา ซึ่งมีทั้งตำรวจ และนักวิทยาศาสตร์ โดยได้ค้นทุกตารางนิ้วแต่ไม่พบร่องรอยแม้แต่น้อยว่า มันหายไปได้อย่างไร รางถึงกับรื้อออกแล้วนำมาวางใหม่ เมื่อค้นหากันไม่พบทำให้หลายคนเชื่อว่ามนุษย์ต่างดาวได้ทำการโจรกรรมโขมยรถด่วนนี้ไป ตามรายงานของ นสพ. อุโมงค์ได้เปิดอีกครั้งหนึ่ง เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๓ ตั้งแต่นั้นมา แม้ว่าจะมีขบวนรถไฟผ่านไปมาเป็นพันขบวนก็ไม่มีอุบัติเหตุอันแปลกประหลาดลี้ลับนั้นเกิดขึ้นอีกเลย

แต่อย่างไรก็ตาม ตลอดระยะเวลาหลายปีมานี้ก็มีคนพยายามค้นหาขบวนรถด่วน เอฟ ๖๒๖ แต่ก็พบว่ามีแต่ความว่างเปล่า บางคนถึงกับสรุปว่า รถขบวนนี้ถูกหุ้มห่อด้วยกาลเวลาและเดินทางไปสู่อนาคตอันไกลพ้น

เรื่องราวแบบนี้เคยเกิดขึ้นในสหรัฐ เรืออินเซอร่าซึ่งเป็นเรือคุ้มครองเรือประจัญบานของกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา จู่ ๆ ก็หายอย่างลึกลับจากอู่เรือที่ฟิลาเดลเฟียในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ ๒ แต่แล้วจู่ ๆ ก็ไปปรากฏตัวที่ฐานทัพเรือนอร์ฟอร์ด ซึ่งทุกวันนี้ยังหาคำตอบไม่ได้

เมื่อรัฐบาลปิดข่าว หนังสืออิตาลีก็พยายามที่จะขุดค้นออกมา ในที่สุดหนังสือพิมพ์โรมเดลี่ที่ขายดีมาก สามารถไปคว้าเอาเทปมาริโอ ฟรานซินี ช่างเครื่องรถไฟขบวนนี้มาตีแผ่ได้ ซึ่งมีดังนี้

"ขณะที่ขบวนรถเคลื่อนเข้าไปในอุโมงค์นั้น ไม่นานนักก็มีหมอกสีขาวหนาลอยฟ่อง สมองรู้สึกปั่นป่วนไปหมด จากนั้นก็หมดสติไม่รู้สึกตัว มาได้สติอีกครั้งหนึ่งเมื่อขบวนรถได้ออกจากอุโมงค์แล้ว เราคิดว่าเวลาคงจะห่างกันไม่ถึงนาทีดี แต่ที่ไหนได้ เมื่อขบวนรถเรากลับมาถึงสถานีโบล้อคน่าถึงได้ทราบว่าได้ห่างกันถึง ๔๒ ปี นี่คือสิ่งเดียวที่เรารู้ "

ผู้โดยสารอื่น ๆ ก็ให้การคล้ายคลึงกันว่า มีหมอกลงจัดเมื่อเวลาเข้าอุโมงค์แล้วก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลย ผู้โดยสารขบวนรถด่วน เอฟ ๖๒๖ ซึ่งเป็นชาวต่างประเทศ ๒ คน ที่หลบการให้การคือ อดอล์ฟ โรเนอร์ เป็นชาวเยอรมัน กับมาร์ติน บาร์ตเลตต์ ชาวแอฟริกาใต้ สำหรับโรเนอร์มีนักข่าวอิตาลีได้โทรศัพท์ไปหลอกถาม โดยอ้างว่าเป็นผู้โดยสารรถด่วนนั้นด้วยกัน

โรเนอร์ได้เล่าว่า ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปมาก ตอนที่เขาหายไปพร้อมกับขบวนรถไฟนั้นเขาอายุ ๓๐ ปี มีลูกชายอายุ ๑๐ ขวบ เดี๋ยวนี้ลูกชายผมอายุ ๕๒ ปีแล้ว อ้วนและเป็นโรคหัวใจ ส่วนภรรยาผมก็ย่างเข้า ๗๐ ปีแล้ว กำลังเป็นโรคเบาหวาน ส่วนผมกลับอายุเพียง ๓๐ ปี เท่านั้น เท่ากับเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๒

เรื่องราวเหล่านี้เป็นความลึกลับของโลกที่อธิบายได้ยาก ซับซ้อน น่าอัศจรรย์ใจ ต่อผู้ที่ได้รับฟังเป็นอย่างยิ่ง


หลังจากที่มิติที่ 6 ได้อ่านเรื่องราวของรถไฟปริศนานี้จบ ก็รู้สึกสงสัย และอยากทราบเช่นกันว่า ว่าจริง ๆ แล้ว ในประเทศอิตาลีนั้น ได้เคยมีเรื่องราวเช่นนี้บันทึกไว้หรือไม่ หรือไม่ก็เรื่องราวนี้ได้เคยมีสำนักข่าว หรือเวบไซต์เรื่องราวปริศนาแห่งไหนเคยนำเสนอกันบ้าง เพราะเนื้อเรื่องดังกล่าวมันสุดจะแปลกประหลาดขนาดนี้ จะต้องมีเวบไซต์ต่างประเทศหลายแห่งได้บันทึกเรื่องนี้ไว้แน่ ๆ

ซึ่งข้อสงสัยมากมายนี้ทำให้มิติที่ 6 ได้ตั้งข้อสังเกตเนื้อหาต้นฉบับของรถไฟปริศนา และค้นหาคำตอบเป็นเรื่อง ๆ ไว้ดังนี้


หนังสือพิมพ์ "Rome Daily" (โรมเดลี่) มีจริงหรือเปล่า ?

มิติที่ 6 ได้ลองพิมพ์ชื่อหนังสือพิมพ์ดังกล่าวหลาย ๆ แบบ โดยเริ่มจาก โรม เดลี่, โรม เดลี่นิวส์ จากเวบไซต์กูเกิ้ล ผลออกมาคือ ไม่พบว่าหนังสือพิมพ์ชื่อดังกล่าวมาก่อน ซึ่งก็เป็นไปได้ว่า ผู้เขียนเรื่องราวนี้ อาจอ่านหรือพิมพ์ชื่อหนังสือพิมพ์ผิดก็เป็นได้ เราจึงข้ามเรื่องนี้ไปยังข้อสังเกตต่อไป


เรื่องราวปริศนานี้ ถูกเปิดเผยครั้งแรกที่ไหน ? และใครเป็นผู้เผยแพร่ที่แท้จริงรายแรก ?

ซึ่งเมื่อมิติที่ 6 ได้พยายามค้นหาอยู่นาน จนในที่สุด ก็พบว่า เรื่องของรถไฟหายไปอย่างปริศนาในอุโมงค์นี้ นอกจากประเทศไทยแล้ว ก็มีบันทึกเป็นภาษาอังกฤษอยู่เพียงในแฟนเพจเฟสบุค "The truth about Aliens and Ufos" ไว้เพียงแห่งเดียว โดยระบุวันที่โพสต์ไว้คือ วันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 โดยแฟนเพจดังกล่าว ได้ระบุแหล่งอ้างอิงว่ามาจากเวบไซต์ http://www.ufo-bbs.com/txt1/065.htm  ซึ่งปัจจุบันเวบไซต์แห่งนี้ ได้ปิดให้บริการไปแล้ว

และจริง ๆ ในผลการค้นหานั้น มิติที่ 6 ก็ได้พบว่ามีผู้แชร์เรื่องราวนี้เป็นภาษาอังกฤษอีกแห่ง นั่นคือบนเวบโซเชี่ยลกูเกิ้ลพลัส แต่โพสต์ดังกล่าวก็ได้ถูกลบออกไปแล้วเช่นกัน จึงไม่ถือว่าเป็นแหล่งที่มาอะไรได้ เลยต้องขอข้ามแหล่งอ้างอิงนี้ไป

พอเมื่อเรามาตรวจสอบที่เวบไซต์ของไทย ที่ได้นำเรื่องนี้มาเผยแพร่กันอย่างมากมาย เพื่อหาแหล่งข่าวที่เก่าที่สุดที่ได้นำเรื่องนี้มาเสนอนั้นก็พบว่า เรื่องราวนี้ได้ถูกเผยแพร่ครั้งแรกที่เวบบล็อก "นานาสาระ $ โหราศาสตร์" ของ อ.ธนเทพ ปฏิพิมพาคม เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2556  นั่นหมายความว่า เรื่องนี้ได้ถูกแปลเป็นภาษาไทยครั้งแรกหลังจากที่ถูกเผยแพร่จากเวบบอร์ดต่างประเทศเพียงไม่ถึงเดือนเท่านั้นเอง

ภาพที่ถูกอ้างว่าเป็นที่เกิดเหตุ สันนิษฐานว่าถูกสแกนมาจากนิตยสารฉบับหนึ่ง
ที่วางขายตามท้องตลาดในเมืองไทย

โดยเรื่องราวนี้เริ่มเป็นที่พูดถึงกันอย่างมาก เพราะมันได้ถูกนำไปพูดคุยบนกระดานข่าวของเวบไซต์ "Pantip.com" ในวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2556 ก่อนที่จะถูกนำเสนอต่อ ๆ ไปอีกหลายแห่ง จนมีผู้คนเริ่มตั้งข้อสงสัยว่า เรื่องราวนี้มันเป็นเรื่องจริงหรือเป็นเพียงเรื่องแต่งกันแน่ !!

และเมื่อย้อนกลับไปดูข้อมูลอ้างอิงที่เป็นภาษาอังกฤษที่เหลือเพียงแห่งเดียวจากเฟสบุคนั้นอีกครั้ง ก็สังเกตพบว่า เรื่องราวดังกล่าวถูกพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษด้วยตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งสิ้น ผิดกับโพสต์อื่น ๆ บนแฟนเพจแห่งนี้ ที่ใช้การพิมพ์แบบมาตรฐาน และลักษณะสำนวนภาษาที่ใช้ ก็ค่อนข้างจะเป็นภาษาที่เข้าใจง่าย ง่ายจนเกินกว่าจะเรียกว่าเป็นสำนวนการเขียน จากนักหนังสือพิมพ์หรือคอลัมนิสต์ใด ๆ และยังสังเกตได้ถึงสำนวนคำซ้ำ ๆ ที่มิติที่ 6 ไม่เคยพบในบทความภาษาอังกฤษที่ไหนมาก่อน นั่นก็คือคำว่า "AS SOON AS..."   เพราะบทความต่างชาติ จะหลีกเลี่ยงคำนี้ ไปใช้คำอื่น ๆ ที่สละสลวยกว่า และสมัยใหม่กว่า ซึ่งสิ่งนี้ได้ทำให้มิติที่ 6 เริ่มรู้สึกไปเองว่า บทความนี้ไม่ได้ถูกเขียนขึ้นมาก่อนด้วยชาวต่างชาติที่เชี่ยวชาญภาษาอังกฤษเลย ซึ่งก็เป็นไปได้ว่ามันอาจถูกเขียนขึ้นโดยใครสักคน ที่เกิดในประเทศที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารหลัก แต่ก็มีความรู้ในการเขียนภาษาอังกฤษอยู่ในระดับสื่อสารได้พอควร


ภาพอุโมงค์ที่รถไฟปริศนานั้นได้วิ่งเข้าไป เป็นอุโมงค์ที่ไหนกันแน่ ?

มิติที่ 6 ได้พยายามใช้ภาพอุโมงค์รถไฟ ที่ถูกอ้างว่าเป็นอุโมงค์ที่เกิดเหตุปริศนานี้ มาค้นหาจากระบบค้นภาพของกูเกิ้ล ก็ไม่พบว่า มีภาพนี้อยู่ในเวบไซต์ต่างประเทศใด ๆ เลย นอกจากเวบไซต์ประเทศไทยเท่านั้น และทุกเวบไซต์ในไทย ล้วนเป็นภาพประกอบข่าวรถไฟนี้ทั้งสิ้น ซึ่งถือว่าแปลกมาก เพราะในต่างประเทศเองก็น่าจะมีการอัพภาพอุโมงรถไฟเก่ากันไว้บ้าง แต่กลับไม่มีภาพนี้เลย


เรือคุ้มครองเรือประจัญบานของอเมริกาที่ชื่อ "อินเชอร่า" นั้นมีจริงหรือไม่ ?

เพื่อความกระจ่าง มิติที่ 6 ได้ทำการตรวจสอบถึงเรื่องราวเกี่ยวกับการหายไปของ "เรืออินเซอร่า" ที่ถูกอ้างอิงในเรื่องว่า มันก็เคยได้หายไปอย่างปริศนาในลักษณะเดียวกัน ก็พบว่าเรื่องราวดังกล่าวเคยเกิดขึ้นจริงที่ฟิลาเดเฟีย ซึ่งทางกองทัพเรือของอเมริกาก็ได้พบสาเหตุที่เรือลำดังกล่าวหายไปจากจอเรดาห์และได้ออกมาอธิบายกันนานแล้ว

นั่นก็คือ สัญญาณที่ตั้งของเรือลำดังกล่าว ถูกรบกวนจากทุ่นระเบิดแม่เหล็กที่เยอรมันได้วางเอาไว้ในน่านน้ำของอเมริกา ซึ่งแน่นอนว่า เมื่อเรือได้แล่นผ่านจุดนั้นไป เรดาห์ก็สามารถจับสัญญาณของเรือลำนี้ได้อีกหน และที่แน่ ๆ เรื่องราวจริง ๆ นั้น เรือดังกล่าวนั้นไม่ได้ใช้ชื่อว่า "INSERRA" (อินเชอร่า) แต่มันเป็นชื่อเรือว่า "USS Eldridge" (ยูเอสเอส เอลดริดจ์) ซึ่งแน่นอนว่ามิติที่ 6 ได้พยายามตรวจหาชื่อเรืออินเชอร่าจากทุกช่องทางแล้ว ก็ไม่พบว่ากองทัพเรืออเมริกานั้น เคยมีเรือรบ หรือเรืออื่น ๆ ที่ใช้ชื่อนี้แต่อย่างใด แล้วทำไมชื่อเรืออินเชอร่านี้ ถึงกลับปรากฎอยู่เพียงในเรื่องรถไฟหายปริศนานี้ทั้งฉบับภาษาไทยและภาษาอังกฤษเท่านั้น ?



ชื่อของพยานในเรื่องนี้  มีตัวตนจริงหรือไม่

ในเรื่องรถไฟปริศนานี้ มีพยานที่ออกมาเปิดเผยเรื่องราวอยู่ 3 ท่าน โดยมีการระบุชื่อ และเชื้อชาติไว้ครบถ้วน ซึ่งประเด็นว่าพยานแต่ละคนเป็นชาวอะไร โดยอาศัยการดูชื่อนั้น ไม่สามารถใช้ได้กับทวีปยุโรป เนื่องจากทวีปนี้ มีผู้คนปะปนกันหลายเชื้อชาติในแต่ละประเทศนานแล้ว ดังนั้น มิติที่ 6 จึงขอพุ่งประเด็นไปที่ชื่อ และความเกี่ยวข้องกับเรื่องราวรถไฟปริศนาเป็นหลักเลยจะดีที่สุด โดย อาศัยชื่อสะกดภาษาอังกฤษจากเรื่องต้นทางภาษาอังกฤษเป็นหลัก ด้วยวิธีการค้นหาจากการใช้ชื่อบุคคล ตามด้วยคำค้น "F626, Eyewithness และ Express rail"  ซึ่งได้ผลการค้นหาออกมาก็คือ


ทั้งเทปมารีโอ้ ฟรานชินี่ หรือ มารีโอ ฟรานชินี่ , อดอล์ฟ โรเนอร์ และมาร์ติน บาร์เลตต์ ล้วนมีชื่อปรากฏอยู่เพียงในเวบไซต์ของไทย และในแฟนเพจเฟสบุคที่เสนอเรื่องราวนี้เป็นภาษาอังกฤษเพียงเท่านั้น โดยไม่ปรากฎบทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องใกล้เคียงเลยแม้แต่เวบไซต์เดียว

นั่นหมายความว่า ผู้เขียนข่าวรถไฟหายปริศนาลึกลับนี้ อาจไม่ทราบชื่อเรือที่แท้จริงที่หายไปช่วงการทดสอบในฟิลาเดเฟีย ส่วนชื่อของพยานที่ออกมาเล่าเรื่อง ก็ไม่มีประวัติหรือเรื่องราวอ้างอิงว่าพวกเขา เคยพูดถึงรถไฟสายนี้ในเวบไซต์ หรือเวบสื่ออื่น ๆ แต่อย่างใดบ้างเลย "มิติที่ 6 จึงขอสรุปว่าเรื่องราวนี้เป็นเพียงเรื่องราวที่ถูกแต่งขึ้นมาเพื่อความบันเทิงเท่านั้น"

ซึ่งแน่นอนว่า การค้นหาข้อมูลเพื่อตรวจสอบเรื่องราวนี้ของมิติที่ 6 เองนั้น เราก็ทำไปเพื่อความบันเทิงของท่านผู้ชมเช่นกันนะครับ โดยเรื่องราวรถไฟหายปริศนานี้ อาจเกิดขึ้นจริงก็ได้ เพียงแต่ว่ารัฐบาลของประเทศอิตาลีเก็บไว้เป็นความลับมาก จนมีข่าวรั่วออกมาถึงประเทศไทยกับเวบบอร์ดยูเอฟโอนั่นเอง

และเช่นเคย เมื่อเราได้ทราบข้อมูลเท็จจริงกันทั้งหมดแล้ว หากใครยกเรื่องราวปริศนารถไฟหายไปในอุโมง 42 ปีนี้ขึ้นมาในวงสนทนา เราก็ควรจะเงียบเฉยไว้ และปล่อยให้เขาเล่าไป โดยที่ไม่จำเป็นจะต้องไปหักหน้าใคร ให้เขาเสียความรู้สึกกันจะดีกว่าครับ เพราะว่าความจริงนั้นมันไม่มีสเน่ห์เอาเสียเลย


อย่าลืมติดตามเรื่องราวเบา ๆ จากรายการมิติที่ 6 ศุกร์สยองขวัญ ทุกวันศุกร์สะดวก จากพวกเรามิติที่ 6 กันได้นะครับ

เรียบเรียงโดย นิวัฒน์ อ่ำแสง
ที่มา
http://exastrology.blogspot.com/2013/08/blog-post.html
http://www.dek-d.com/board/view/3063526/
facebook fanpage : The truth about Aliens and Ufos
https://goo.gl/4Cpy8t
G+ : https://goo.gl/8ESwq1
http://www.ufo-bbs.com/txt1/065.htm
http://welcome-to-poltava.com.ua/read/a_ghost_train_makes_trips_over_the_poltava
http://io9.gizmodo.com/5944616/what-really-happened-during-the-philadelphia-experiment
https://en.wikipedia.org/wiki/Philadelphia_Experiment

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ประกาศ

เพื่อเป็นกำลังใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กับเรา ขอความร่วมมือจากผู้ที่นำเรื่องราวจากมิติที่ 6 ไปใช้ในที่ของท่าน กรุณาลงเครดิตกลับมาที่เราจะเป็นพระคุณอย่างสูงครับ