23 มีนาคม 2561

มิติที่ 6 | Ben Drowned ไขปริศนาตลับเกมอาถรรพ์ Majora's Mask !!!




Post #1 (Sept. 7, 2010) 

โอเคชาว /x/ พารานอมอล ผมอยากได้ความช่วยเหลือครับ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแต่ง แถมยังค่อนข้างจะยาว แต่ผมขอบอกเลยว่า ชีวิตของผมจะเป็นตายร้ายดียังไงต่อไป มันก็ขึ้นอยู่กับเรื่องนี้จริง ๆ และเรื่องนี้ มันก็คือเรื่องของวิดีโอเกมที่ผมได้มา มันคือ "เมเยอราส์แมสก์" ที่มันสร้างความน่ากลัวให้กับผม อย่างมากที่สุดเท่าที่ชีวิตของผมได้เคยพบ !


กดเพื่อชมบนยูทูป

มิติที่ 6 ศุกร์สยองขวัญ กับเรื่องราวเบา ๆ ในวันศุกร์สะดวกสัปดาห์นี้ เราจะเล่าเรื่องราวของมัน เกมตลับของนินเทนโด 64 เกมนั้น ที่ท่านผู้ชมจำนวนมากขอให้เราตามหาที่มาจากเรื่องเล่า ว่าเรื่องนี้... มันคืออะไรกันแน่ !?

ขอบอกก่อนเลยว่า ผมเพิ่งจะย้ายเข้ามาพักที่หอแห่งนี้ เพื่อเริ่มต้นชีวิตในรั้ววิทยาลัยกันแบบจริงจัง ซึ่งเพื่อนของผมมันก็ใจดี เอาเครื่องเกมนินเทนโด 64 ของเขามาให้เล่น เผื่อใครที่ไม่รู้จัก ผมขออธิบายสั้น ๆ ว่า นินเทนโด 64 มันก็คือเครื่องเกมในยุคหนึ่ง ที่เปิดตัวได้ไม่นานก็ต้องม้วนเสื่อเลิกไป เพราะการมาของเครื่องเพลย์สเตชั่นนั่นแหละ แต่ถึงมันจะเป็นแบบนั้น ผมก็ขอบอกเลยว่า ต่อให้มันเป็นของเก่า ผมก็เล่นได้หมดทุกเกมนั่นแหละ ต่อให้ตอนเด็ก ๆ ไม่เคยได้เล่นผมก็มั่นใจว่าเล่นมันได้ทุกเกมแน่ ๆ

เจ้าเพื่อนของผมคนนี้นอกจากจะให้เครื่องเกมมาแล้ว เขาก็ยังให้คอนโทรเลอร์สีเหลืองมาหนึ่งอัน กับตลับเกมกะหลั่ว ๆ ชื่อสแมชบราเดอร์อีกหนึ่งเกม แต่ก็นั่นแหละของฟรีทำไมผมจะต้องโวยวายเรื่องเกมด้วยล่ะ ? ไม่อยากจะโม้เลยว่าผมใช้เวลาเล่นเกมนี้แค่แป๊บเดียว ผมก็เล่นจบได้แบบไม่ยาก แถมตอนนี้ผมก็เบื่อไปเรียบร้อยแล้วด้วย

นั่นก็เลยทำให้สุดสัปดาห์นั้น ผมต้องขับรถออกไปนอกเขตวิทยาลัย เพื่อไปเที่ยวตลาดนัดเปิดท้ายของย่านนี้ โดยผมก็ได้แวะไปหาของดี ๆ ที่พวกพ่อแม่เอาของเจ๋ง ๆ ของลูกมาวางขาย ซึ่งผมก็ได้เกมโปเกมอนสเตเดียม โกลเดนอาย เอฟซีโร่ และคอนโทรเลอร์อีก 2 ตัวมาในราคาแค่ 2 ดอลลาร์ ก็ขอบอกเลยว่ามันยอดเยี่ยมไปเลย แล้วผมก็ขับรถตระเวนหาของต่อไป จนมาถึงบ้านหลังสุดท้าย ที่ดูแล้วค่อนข้างจะสะดุดตาผมอยู่พอสมควร จะให้บอกยังไงดีล่ะ คือร้านนี้ไม่ใช่ร้านเปิดท้าย มันมีโต๊ะตั้งอยู่แค่ตัวเดียว บนโต๊ะก็มีกองขยะกองนึงวางอยู่ แต่ถึงจะบอกแบบนั้น มันก็มีอะไรบางอย่างที่ทำให้ผมสนใจ เพียงแต่ผมก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไรเหมือนกัน มันเป็นแค่สัญชาติญาณ ซึ่งผมก็ควรจะเชื่อสัญชาติญาณตัวเองใช่ไหมล่ะ ว่าแล้วผมก็ลงจากรถไปดูทันที

พอลงรถไปผมก็ได้ยินเสียงชายชราทักทายทันที จะให้ผมอธิบายลักษณะของเขายังไงดีนะ คือผมบอกไม่ถูกจริง ๆ เอาเป็นว่าถ้าตอนนั้นมันไม่ใช่กลางวันแสก ๆ แล้วมีคนอื่นตะโกนเรียกผมพร้อมกับลุงคนนี้ ผมคงเดินไปหาอีกคนดีกว่านั่นแหละ

ลุงคนนั้นส่งยิ้มให้กับผม แล้วก็ถามผมว่ากำลังมองหาอะไรอยู่หรือเปล่า ? ตอนนั้นผมจึงสังเกตเห็นได้ทันทีว่า ลุงคนนี้น่าจะตาบอดข้างนึงแน่ ๆ เพราะที่ตาขวาของเขา มันเหมือนกับมีกระจกอะไรเคลือบอยู่ ซึ่งผมก็พยายามจะบังคับสายตาตัวเอง ให้มองไปที่ตาอีกข้างนึงของเขาน่าจะดีกว่า ในใจก็หวังว่าทีท่าของผมแบบนี้ มันคงไม่ไปทำให้เขารู้สึกเสียใจแน่ ๆ แล้วผมก็ถามเขาไปว่า ลุงพอจะมีวิดีโอเกมเก่า ๆ ขายบ้างไหม ?

ในขณะที่ผมค่อย ๆ มองดูเขาเดินจากไป ผมก็ใช้เวลาตรงนี้ไปกับการดูสินค้าชิ้นอื่น ๆ บนโต๊ะ จะบอกยังไงดีนะ คือมันมีแต่ภาพแปลก ๆ ภาพที่ดูเหมือนเอาน้ำหมึกมาหยดแล้วพับครึ่ง แบบที่เราเคยเห็นพวกจิตแพทย์เขาเอามาให้คนไข้ดูนั่นแหละ ผมดูไปก็สงสัยไป บางทีที่ร้านของเขา ไม่ค่อยจะมีใครสนใจมาดูสินค้า มันก็คงเพราะภาพพวกนี้รึเปล่า ?

ผมไล่มองไปเรื่อย ๆ จนมาถึงภาพสุดท้าย ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงมองเห็นมันเหมือนกับเมเยอราส์แมสก์ ใครเคยเล่นเกมเชลด้าภาคนี้บ้าง หน้ากากที่ว่ามันเป็นรูปหัวใจ มีหนามเล็ก ๆ งอกออกมารอบ ๆ ขอบอกเลยว่า ตอนนั้นผมก็แอบหวังไว้นิดหน่อย ว่าอยากให้เกมที่เขาจะหยิบมาเป็นเกมนี้ ซึ่งจริง ๆ แล้วผมควรจะถามเขาก่อนไม่ใช่เหรอ แต่ผมก็ไม่ได้ถามเขาก่อนจริง ๆ นั่นแหละ

เมเยอราส์แมสก์
(ภาพจาก: Fireflytwinkletoes

พอเงยหน้าขึ้นมา ผมก็เห็นชายชราคนนั้นกำลังรีบเดินกลับมาที่นี่ เขายื่นแขนมาแทบจะชนหน้าของผม ยิ้มให้ผม จนผมนี่แทบจะกระเด้งออกมาเพราะตกใจเลยล่ะ แต่สิ่งที่ผมเห็นในมือของเขา มันก็ทำให้ผมรู้สึกขำปนกังวลขึ้นมา นั่นมันตลับเกมนินเทนโด้ 64 มันมีสีเทาแบบมาตรฐานก็จริง แต่ที่มันไม่มาตรฐานก็คือ ชื่อเกมที่ถูกเขียนไว้บนตลับ ด้วยปากกาเมจิคสีดำเขียนว่า "เมเยอราส์แมสก์" ผมนี่อึ้งไปเลย มันต้องเป็นเรื่องบังเอิญอยู่แล้ว นั่นจึงทำให้ผมถามเขาไปว่า ลุงอยากขายมันในราคาเท่าไหร่ ?

ชายชราส่งยิ้มแล้วตอบผมกลับมาว่าให้ฟรีเอาไปเลย เจ้าตลับเกมนี้มันเคยเป็นของเด็กคนหนึ่งที่อายุพอ ๆ กันกับผม แต่ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว ซึ่งประโยคหลังนี่มันทำให้ผมคิดไปว่ามันมีอะไรแปลก ๆ ซ่อนอยู่หรือเปล่า ? แต่ตอนนั้นผมก็ไม่ได้สนใจอะไรกับเรื่องนี้เท่าไหร่นัก เพราะในหัวผมมันมีแต่คำว่าเกมฟรี เกมที่อยากได้ และผมได้มันมาฟรี ๆ เท่านั้นเอง

ผมถามตัวเองว่าทำไมไม่คิดจะสงสัยหน่อยเหรอ ตลับเกมหน้าตาขนาดนี้ จะมีใครการันตีได้ไหมว่ามันยังไม่พัง ? หรือบางทีมันอาจเป็นตลับเกมเบต้า หรือว่ามันจะเป็นตลับเกมเถื่อนจากกวนสง ไม่ก็จากเสินเจิ้น ซึ่งผมจะรู้ความจริงทั้งหมด ก็ต่อเมื่อกลับฐานทัพของตัวเองแล้วนั่นแหละ คิดได้แบบนั้นผมก็เลยกล่าวคำขอบคุณกับเขา ซึ่งเขาก็ยิ้มตอบกลับมาพร้อมกับคำอวยพรเยอะแยะ ที่อย่างน้อยผมก็จำคำสุดท้ายของเขาได้ก็คือ “Goodbye then!” ที่น่าจะหมายถึง “ไว้เจอกันใหม่” นั่นแหละ

ตลอดการเดินทางกลับมาที่หอ ในหัวของผมก็พยายามทบทวนคำพูดที่จำไม่ได้เหล่านั้น เขาซ่อนอะไรเอาไว้ในข้อความของเขาหรือเปล่า ? เพราะเรื่องราวสยองขวัญทั้งหมด มันก็เกิดขึ้นหลังจากที่ผมเอาเกมตลับนี้มาเปิด นอกจากมันจะยังไม่พังแล้ว ในเกมมันก็มีไฟล์เซฟเก่าถูกบันทึกอยู่ในนั้นหนึ่งไฟล์ มันถูกตั้งชื่อไว้ว่า Ben ที่มันทำให้ผมนึกถึงคำพูดสุดท้ายของลุงคนนั้น ที่เขาพูดว่า “กูดบาย เด็น...” หรือว่าเขาจะพูดว่า “กูดบาย เบ็น...” กันแน่ ? แต่ที่ผมสงสัยตอนนั้นมันไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้เลย คือผมสงสัยแค่ว่า ทำไมพวกผู้เฒ่าผู้แก่ ไม่ว่าบ้านไหนซอยไหนไม่เว้นแม้แต่บ้านของผม พวกเขาก็มักจะชอบเรียกหลานชายตัวเองว่า “เบ็น” กันหมด

แต่ช่างเถอะ เอาความสงสัยวางไว้ตรงนั้นก่อน ตอนนี้ผมมีสิ่งที่ต้องสนใจอยู่ตรงหน้า เจ้าเซฟไฟล์นี้ เจ้าของเก่าเขาเล่นไปถึงตรงไหนกันนะ พอเปิดดูก็พบว่าเซฟนี้เขาเล่นเกมไปได้ไกลพอสมควร เขาได้ชิ้นส่วนของหน้ากากมาครบหมดแล้ว แถมบอสก็ปราบไปได้ถึง 3 ใน 4 เขาใช้สัญลักษณ์นกฮูกเป็นภาพในการเซฟเกมด้วย ส่วนตัวเกมยังอยู่ในช่วงวันที่ 3 ของฉากสโตนทาวเวอร์เทมเพิล และเหลือเวลาอีกไม่ถึงชั่วโมงก่อนที่ดวงจันทร์จะเข้าชนเมือง

เจ้าของเก่าคงรู้สึกแย่มากแหง ๆ ที่เขาเกือบจะเล่นมันจบ แต่ก็ไม่มีโอกาสได้จบเกมแบบนี้ และเพื่อเป็นการสดุดีในสิ่งที่เขาทิ้งไว้ ผมจึงสร้างไฟล์เซฟขึ้นมาใหม่ แล้วตั้งชื่อมันแบบพื้น ๆ ว่า “ลิงค์” ซึ่งนั่นก็คือชื่อเรียกเจ้าตัวเล็กชุดเขียว ที่เราจะต้องบังคับมันในเกมนี้ ซึ่งผมเองก็แอบนึกขำอยู่นิดหน่อย ที่มีบางคนนึกว่ามันชื่อเชลด้า คือชื่อเชลด้ามันเป็นชื่อของเจ้าหญิงต่างหากนะ เอาเป็นว่าตอนนี้ผมตั้งชื่อไฟล์ไว้แบบนั้น และผมก็เริ่มเล่นเกมเพื่อรำลึกความหลังทันที

ต้องขอบอกเลยว่าตัวเกมมันยังเล่นได้ราบลื่นดีมาก แทบจะเรียกได้ว่ามันเล่นดีเหมือนตลับแท้ ที่ไม่ค่อยพบอาการกะตุกในเกมแบบพวกตลับจากเสินเจิ้น แต่มันก็มีบางจุด ที่ทำให้ผมตกใจอยู่เหมือนกัน นั่นก็คือ ช่วงที่ผมต้องเข้าไปคุยกับตัวละครแบบ NPC จะเห็นได้ชัดเลยว่าพวกมันเรียกผมว่า “เบ็น” ตอนนั้นผมคิดว่ามันคงจะเป็นบั๊ก ที่น่าจะเกิดจากความผิดพลาดในการอ่านไฟล์เซฟ มันอาจไปดึงข้อมูลของเซฟอีกไฟล์ มาปนกับของผมหรือเปล่าก็ไม่รู้ ซึ่งมันก็ทำให้ผมหลอนไปได้พักใหญ่เหมือนกัน

จนผมเล่นมาจนจบช่วง Woodfall Temple ผมก็ตัดสินใจที่จะลบไฟล์เซฟอันเก่าจะดีกว่า เพราะผมคิดว่าต้นเหตุของบั๊ก มันน่าจะมาจากมันแน่ ๆ แต่กลายเป็นว่าหลังจากที่ผมได้ลบมันทิ้งไป เหล่า NPC ในเกมก็ไม่เรียกชื่อผมว่าอะไรสักอย่าง ตรงชื่อของผมมันกลายเป็นที่ว่าง ๆ ทั้งที่พวกมันควรจะเรียกชื่อผมว่า ลิงค์ ตามชื่อที่ผมตั้งเอาไว้ในเซฟเกมของผม และด้วยความผิดหวังร่วมกับการบ้านที่จะต้องทำอีกมากมาย มันก็เลยทำให้ผมเลิกเล่นเกมไปตลอดทั้งวันเสียแบบนั้น

จนกระทั่งเมื่อคืนนี้ผมจึงได้กลับมาเปิดเกมเล่นอีกครั้ง ผมเก็บแว่นขยายแห่งความจริง และเดินหน้าไปเคลียร์ฉาก Snowhead Temple ซึ่งถ้าคุณเป็นแฟนพันธุ์แท้ของภาคเมเจอร่ามาสค์ล่ะก็ คุณก็น่าจะทราบว่าในช่วงวันที่ 4 ของฉากนี้ มันจะมีจุดผิดพลาดที่เรียกว่ากลิทช์ซ่อนอยู่ ซึ่งถ้าคุณไม่ได้เป็น ยังไงก็ลองไปค้นรายละเอียดดูได้ที่กูเกิลนะ คือจุดสำคัญของมัน จะอยู่ที่ช่วงเวลา 0 นาฬิกาของวันสุดท้าย โดยเราจะต้องไปพูดคุยกับนักดาราศาสตร์ แล้วก็จะได้ส่องกล้องดูดาว ถ้าเราทำเวลาได้ตรงกับวินาทีสุดท้ายล่ะก็ ตัวบอกเวลาจะหายไปและเราก็จะมาอยู่ในวันต่อมาที่วิกฤติการณ์ในเกมจบไปหมดแล้ว ซึ่งผมก็ตัดสินใจที่จะลองใช้ข้อผิดพลาดนี้ และผลที่ได้ก็คือผมทำสำเร็จ !

แล้วทีนี้พอผมกดปุ่ม B เพื่อออกจากการส่องกล้องดูดาว จริง ๆ ผมจะต้องกลับมาพูดคุยกับนักดาราศาสตร์ในเกม แต่มันกลายเป็นว่าตัวเล่นของผมกลับมาอยู่ในห้องของบอสตอนจบได้ยังไงก็ไม่รู้ ตอนนี้เจ้าสกัลคิดกำลังลอยอยู่ข้างบน ไม่มีเสียงใด ๆ อย่างที่ควรเป็น มีแต่มันที่กำลังลอยอยู่ในอากาศ เพลงประกอบก็ยังคงเป็นเพลงเดิม ที่ปกติมันก็น่ากลัวอยู่แล้ว

มือของผมเริ่มมีเหงื่อซึมออกมา นี่มันไม่ปกติ ! สกัลคิดต้องไม่มาอยู่ที่ตรงนี้ไม่ใช่เหรอ ? ผมพยายามเดินไปทั่วบริเวณ แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นสักอย่าง เจ้าสกัลคิดเอาแต่จ้องมองมาที่ผม ไม่พูดไม่จาอะไรสักนิด มันเป็นแบบนี้เกือบหนึ่งนาที ผมจึงคิดว่าเกมมันอาจจะเกิดข้อผิดพลาดแน่ ๆ

พอผมกดไปที่ปุ่มรีเซ็ตของเครื่อง มันก็มีข้อความปรากฏขึ้นมาว่า “นายอาจไม่แน่ใจว่าเพราะอะไร แต่นายนั่นแหละที่เป็นคนทำเรื่องจองเอาไว้” ซึ่งผมก็จำข้อความนี้ได้ มันเป็นข้อความที่เราจะได้เห็นตอนอยู่ในห้องกุญแจจากอันจู ในโรงแรมสต็อกพ็อทของเกม แล้วทำไมข้อความนั่นถึงมาอยู่ที่นี่ได้ ? ผมไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องสนุก ถ้าสิ่งนี้มันคือการสื่อสารมาจากตัวเกมถึงผมตรง ๆ


ผมจึงเริ่มเดินสำรวจไปทั่วห้องอีกครั้ง พยายามมองหาอะไรก็ได้ ที่มันจะทำให้ผมตอบโต้กับบางสิ่งที่นี่ แล้วผมก็มาคิดได้ว่า บางทีอาจมีบางคน แอบแก้ไขตัวเกมให้เป็นแบบนี้หรือเปล่า แล้วอยู่ดี ๆ มันก็มีข้อความต่อไปปรากฏขึ้นมา ซึ่งมันก็เหมือนกับการนำข้อความในจุดอื่นของเกมขึ้นมาถามผมว่า “จะไปที่ถ้ำของบอสหรือเปล่า ?” ตามด้วยตัวเลือกว่าจะไปหรือไม่ไป ผมหยุดคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผมควรจะเลือกอะไรดีนะ แล้วผมก็สูดหายใจเข้าปอดลึก ๆ ก่อนที่จะตอบตกลง แล้วหน้าจอก็ค่อย ๆ หายไปกลายเป็นสีขาว พร้อมกับข้อความบอกว่า “รุ่งอรุณของวันใหม่” อีกบรรทัดก็มีตัวอักษรตัว I เรียงติดกันหลายตัว และที่นี่ มันก็คือการพาตัวผมเอง ให้มาเจอกับความน่ากลัว ที่มันน่ากลัวมากที่สุดเท่าที่ผมเคยพบมา

มีทางเดียว ที่ผมจะสามารถอธิบายได้ว่า ผมรู้สึกถึงความหดหู่ของที่นี่ขนาดไหน คือผมไม่ได้ป่วยเป็นโรคซึมเศร้านะ แต่สิ่งที่ผมรู้สึกได้กับที่นี่ มันก็ไม่รู้ว่าจะใช้คำไหนมาอธิบายได้มากกว่านี้ มันเหมือนมีพลังอันยิ่งใหญ่กำลังจ้องมองผมอยู่

ผมมาอยู่ในฉากแปลก ๆ ที่เหมือนกับอีกเวอร์ชั่น ของฉากเมืองคล็อคทาวน์ในแบบดาร์กไซด์ ผมเดินออกมาจากหอนาฬิกาอย่างที่ควรเป็นในฉากปกติ แต่สิ่งที่แปลกไปก็คือ ไม่มีใครอยู่ในฉากเลย ปกติในกลิทช์ของวันที่ 4 เราจะต้องเห็นยามยืนอยู่ กับสุนัขตัวหนึ่งวิ่งไปมารอบหอคอย แต่นี่ไม่มีใครเหลืออยู่เลย มันมีอะไรบางอย่าง ที่เป็นแค่ความรู้สึกถึงลางร้าย บอกผมว่าข้างนอกมันต้องมีอะไรอยู่แน่ ๆ มันกำลังจ้อมองผมอยู่

ตอนนี้ผมมีหัวใจอยู่ 4 ดวง กับธนูวีรบุรุษ และสิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกว่า ตัวเองกำลังตกอยู่ในอันตรายนั้น บางทีมันอาจจะมาจากเพลงที่กำลังเล่นอยู่ มันเป็นเพลงชื่อ Song of Healing ที่นำมาจากตัวเกมในฉากอื่น มันถูกเล่นแบบย้อนกลับ เสียงเพลงก็ดังมาก ทำให้ระแวงเลยว่า ที่ข้างหลังของผมจะมีอะไรโผล่ออกมาหรือเปล่า ? แต่มันก็ไม่มีอะไร ซึ่งเพลงมันก็เล่นวนอยู่แบบนั้น จนทำให้ผมรู้สึกหลอนแทบจะเป็นบ้า

และตั้งแต่ตอนนั้นมาจนถึงตอนนี้ ผมจะได้ยินเสียงหัวเราะแปลก ๆ ของเจ้าเซลแมนขายหน้ากาก ดังอยู่ในบรรยากาศตลอดเวลา ผมได้ยินเสียงนั้นเบามาก จนต้องพยายามเงี่ยหูฟังว่า ผมจะสามารถหาเขาเจอได้จากตรงไหน ผมเดินหาไปทั่วทั้ง 4 ส่วน ของหอนาฬิกาแล้วก็ไม่เจออะไร มันไม่มีใคร และที่หอนาฬิกาฝั่งตะวันตกเอง มันก็มีเท็กซ์เจอร์บางส่วนหายไป นั่นก็เลยทำให้ผม มองเห็นตัวหอคอยมันลอยอยูกลางอากาศ ข้อมูลในฉากส่วนนี้มันพังไปหมดแล้ว เพลงที่เล่นในฉากนั้นก็ยังคงได้ยินต่อไป ผมจำได้ว่าผมเคยเล่นฉากนี้ในแบบปกติ มันไม่ได้ดูวังเวงจนน่ากลัวแบบนี้เลยนะ

พอผมเดินไปทางโกสต์ทาวน์ ผมก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น มันเหมือนกับข้อมูลเท็กซ์เจอร์รวนไปหมด เสียงบรรยากาศที่ได้ยินก็ทำให้รู้สึกหลอนจนขนหัวลุก และไม่รู้ว่ามันคืออะไร อยู่ดี ๆ ผมก็เกือบจะร้องไห้ออกมา มันต้องมีอะไรบางอย่างจับตัวผมให้มาอยู่ตรงนี้ พลังของมันกำลังทำให้ผมตกอยู่ในภาวะของโรคซึมเศร้า ราวกับว่าตอนนี้การมองโลกปกติของผมค่อย ๆ เลือนหายไป

ผมพยายามออกจากฉากหอนาฬิกา แต่ทุก ๆ ครั้งที่ผมจะเดินออกไปจากที่นี่ หน้าจอก็จะดับไปกลายเป็นสีดำ แล้วผมก็จะกลับมาอยู่ในส่วนอื่น ๆ ของหอนาฬิกาต่อไป ผมพยายามใช้โอคาริน่าเล่นพเลง เพื่อจะได้หนีออกไปจากฉากตรงนี้ ผมไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว แต่ทุกครั้งที่ผมจะเล่นเพลงซองออฟไทม์ และซองออฟซอริ่ง ตัวเกมจะบอกผมว่า “ตัวโน้ตของคุณไม่ถูกต้อง ไม่มีอะไรเกิดขึ้น !”

และที่จุดนี้ผมก็รู้เลยว่าตัวเกมมันไม่ยอมให้ผมไปไหนแน่ ๆ แต่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่า มันจะกักผมไว้ในฉากนี้ทำไม ผมไม่อยากเดินเข้าไปในตัวอาคารเลย ผมรู้สึกได้ว่าตัวเองตอนนี้มีแต่ความอ่อนแอและหวาดกลัว แล้วก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน อยู่ดี ๆ ผมก็นึกออกได้ว่า ถ้าผมไปกระโดดน้ำที่ฉากลอนดรีพูล ผมจะสามารถไปโผล่ที่ไหนสักแห่งเพื่อออกจากที่นี่ได้แน่ ๆ

คิดได้ดังนั้นผมก็เลยรีบวิ่งไปที่สระทันที แล้วอยู่ ๆ เจ้าลิงค์ก็เอามือกุมศีรษะ และที่หน้าจอก็ตัดเข้าไปที่ภาพของคนขายหน้ากาก เขากำลังยืนยิ้มแล้วจ้องมาที่ผม ผมไม่ได้หมายถึงจ้องไปที่ลิงค์ แต่มันจ้องมาที่ผมจริง ๆ !


ผมได้ยินเสียงกรีดร้องของสกัลคิดอยู่ในบรรยากาศ สักพักหน้าจอก็กลับมาที่หน้ารูปปั้นลิงค์ ผมถึงกับร้องเสียงหลง กับสิ่งที่กำลังจ้องหน้าผมอยู่ ผมรีบหันหลังกลับไปที่ทิศใต้ของหอนาฬิกา ในหัวยังคงเห็นภาพจากรูปปั้นติดตามาตลอดทาง พอผมลองหันกลับไปมองข้างหลัง รูปปั้นนั้นมันไล่ตามผมมาจริง ๆ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ !?

ตอนนั้นผมเกือบหลุดร้องไห้ออกมาอยู่แล้ว แต่ผมก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องจะปิดเครื่องหนีแม้แต่น้อย ผมไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ทำไมผมถึงพยายามจะเล่นต่อ ทั้ง ๆ ที่ทุกอย่างมันดูน่ากลัวไปหมด มันดูเหมือนจริงมาก ผมพยายามจะไล่จับเจ้ารูปปั้นนั่น แต่มันก็จะหายไปอยู่ด้านหลังของผมทุกครั้ง

แล้วลิงค์ก็เริ่มจะทำท่าแปลก ๆ ท่าทางที่ผมไม่เคยเห็นเขาทำมาก่อน เขากะตุกแขนแกว่งไปมา ก่อนที่หน้าจอจะตัดไปที่คนขายหน้ากากอีกครั้ง เขาแสยะยิ้มให้กับผม ก่อนที่ภาพจะตัดกลับไปยังรูปปั้นนั้นอีก ผมวิ่งไปที่สำนักดาบ เพราะหวังว่าจะได้เจอตัวละครอื่น ๆ บ้าง แต่แล้วผมก็รีบวิ่งกลับ เพราะไม่มีใครอยู่เลย

พอหันหลังกลับเจ้ารูปปั้นนั่นก็มาอยู่ที่ข้างหลังผมอีก ผมใช้ดาบฟันเข้าไปก็ไม่ได้ผล สุดท้ายผมก็จนมุม ยืนมองเจ้ารูปปั้นนั่นอย่างสิ้นหวัง แล้วหน้าจอก็ตัดไปที่คนขายหน้ากาก แล้วก็ตัดไปที่หน้าของรูปปั้นลิงค์อีกครั้ง มันยืนเหมือนกับเป็นเงาที่อยู่ในกระจก ที่ตาก็จ้องมองมาที่ผม กำแพงทั้งสี่ด้านก็หายไป ในขณะที่ผมก็รีบวิ่งออกจากสำนักด้วยความหวาดกลัว ทันใดนั้น ตัวเกมก็พาตัวผมมาอยู่ในถ้ำใต้ดิน แล้วเจ้ารูปปั้นนั่นก็ปรากฏตัวขึ้นมาอีก มันดูเกรี้ยวกราดกว่าเดิม นี่แสดงว่ามันตามผมไปได้ทุกที่ใช่ไหม นั่นจึงทำให้ผมรีบหนีออกจากถ้ำ แล้วไปที่หอนาฬิกาด้านใต้ทันที

และขณะที่ผมกำลังวิ่งไปอย่างไม่มีจุดหมาย อยู่ดี ๆ มันก็มีเสียงกรีดร้องดังขึ้น หน้าจอตัดไปเป็นสีดำ ตัวหนังสือเขียนว่า รุ่งอรุณแห่งวันใหม่กับตัวไอหลายตัวก็ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง

ภาพตัดเข้ามาที่ผมกำลังยืนอยู่บนยอดหอนาฬิกา เจ้าสกัลคิดก็ลอยอยู่เหนือศีรษะของผมอีกครั้ง ทุกอย่างเงียบสนิท ดวงจันทร์ก็เป็นสีดำลอยอยู่เหนือผมไปไม่กี่เมตร สกัลคิดที่สวมหน้ากากเมเจอร่า มันกำลังจ้องมองมาที่ผม บรรยากาศเริ่มเปลี่ยนไป ทุกอย่างดูสิ้นหวังไปหมด ผมรีบใช้ธนูยิงไปที่สกัลคิด ซึ่งมันก็โดนไปเต็ม ๆ จนหน้าหงาย ผมจึงยิงธนูดอกที่สองและสามตามไป แล้วมันก็มีกล่องข้อความขึ้นมาบอกว่า “ทำแบบนั้นมันไม่ดีนักหรอก” จากนั้นร่างของผมก็ถูกอะไรบางอย่างยกลอยขึ้น ก่อนที่จะเกิดไฟลุกไหม้ขึ้นไปทั่วร่างของลิงค์

ผมถึงกับกระโดดตัวลอย ผมไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้ในเกมมาก่อน ร่างของลิงค์ถูกไฟคลอกจนแน่นิ่ง เจ้าสกัลคิดก็หัวเราะชอบใจ ก่อนที่หน้าจอจะตัดไปเป็นสีดำ โอกาสที่สองของผมจึงได้กลับมาที่เดิมอีกครั้ง รอบนี้ผมรีบบุกเข้าไปที่สกัลคิด แต่ตัวผมก็ลอยขึ้นไปโดนไฟคลอกตายอีกรอบ จนตัวเกมกลับมาเริ่มใหม่รอบที่ 3 ซึ่งมันก็ถือเป็นโอกาสสุดท้ายแล้ว บรรยากาศทุกอย่างเงียบสนิท ผมนึกได้ว่าในเกมปกติ ผมควรจะใช้โอคาริน่าเล่นเพลงเรียกยักษ์ให้ออกมาช่วย พอผมเล่นเพลงยังไม่ทันถึงโน้ตตัวสุดท้าย ร่างของลิงค์ก็ถูกยกลอยขึ้นไป ก่อนที่จะระเบิดเป็นลูกไฟตายไปต่อหน้าต่อตาอีกครั้ง

ตอนนี้หน้าจอก็เริ่มกะตุก ดูเหมือนตลับเกมกำลังจะโหลดอะไรบางอย่าง พอหน้าจอกลับมาเป็นปกติ เหตุการณ์ที่เพิ่งจบไปก็ถูกย้อนกลับมาอีกครั้ง นั่นก็รวมถึงตอนที่ลิงค์นอนตาย ในสภาพที่ไม่เคยเห็นในเกมมาก่อนด้วย สกัลคิดยังคงลอยอยู่ข้างบน ผมขยับอะไรไม่ได้ กดปุ่มอะไรก็ไม่เกิดผล สิ่งเดียวที่ผมทำได้ตอนนี้ก็คือ การนั่งมองร่างของลิงค์ แล้วตัวเกมก็ค่อย ๆ ตัดภาพไปที่ข้อความว่า “นายประสบชะตากรรมไม่ค่อยดีเลยนะ ว่าไหม ?” แล้วตัวเกมก็ตัดไปที่หน้าไตเติลทันที

ผมรีบกดปุ่มเพื่อเริ่มเล่นเกมใหม่อีกครั้ง แล้วผมก็พบว่าเซฟเกมของผมมันหายไปแล้ว ตอนนี้ที่สล็อตเซฟชื่อลิงค์ของผม มันถูกเปลี่ยนชื่อไปกลายเป็นคำว่า "YOUR TURN" หรือที่แปลว่า “ถึงตาของคุณ" มันมีหัวใจ 3 ดวง ไม่มีหน้ากาก ไม่มีไอเท็ม ผมจึงลองกดเลือกเล่นเซฟนี้ แล้วมันก็พาผมกลับไปที่ฉากหอนาฬิกา ตรงจุดเดิมที่ผมเพิ่งตายไปเมื่อสักครู่ เจ้าสกัลคิดที่ลอยอยู่ข้างบน มันก็ยังคงหัวเราะซ้ำไปมาแบบนั้น ผมจึงรีบกดไปที่ปุ่มรีเซ็ตบนเครื่องเกม พอกดเริ่มเกมใหม่ ผมก็พบว่ามันมีเซฟไฟล์เพิ่มขึ้นมาอีกไฟล์ ชื่อเซฟนั้นเขียนว่า Ben

ผมรีบปิดเครื่องเกมทันที ผมไม่เชื่อเรื่องผีสาง แต่นี่มันแย่มากสำหรับผม ตลอดทั้งวันนั้น ผมไม่ได้เปิดเกมเล่นอีกเลย บ้าที่สุด ! ผมนอนไม่หลับ ! ในหัวของผมยังได้ยินเพลงน่ากลัวจากในเกม ภาพจากเกมก็ยังคงวนเวียนอยู่ในสมอง นั่นจึงทำให้ผม รีบขับรถกลับไปที่บ้านของชายชราในวันนี้ เพื่อจะได้ถามคำถามกับเขาสักสองสามข้อ รอบนี้ผมพาเพื่อนคู่หูไปด้วย เพราะผมคงไม่ยอมไปที่นั่นคนเดียวแน่ ๆ แต่พอไปถึง ผมก็พบแต่ป้ายบอกขายบ้าน ปักอยู่ที่สนามหญ้าหน้าบ้านเท่านั้น พอเดินไปกดกริ่งหน้าประตู ผมก็พบว่าไม่มีใครอยู่ในบ้านแล้ว

นั่นก็เลยทำให้ผมกลับมานั่งเขียนเรื่องนี้ เพื่อระบายความในใจ และบันทึกเอาไว้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ต้องขออภัยจริง ๆ ถ้าไวยกรณ์ของผมมันดูเละเทะไปหมด ผมยังไม่ได้นอนเลย ผมกลัวเจ้าเกมบ้านั่น

ผมไม่รู้ว่าจะมีโอกาสที่สองในการกลับมาเขียนเรื่องนี้ต่อหรือเปล่า แต่ผมรู้สึกได้เลยว่าภาพทุกอย่างมันยังติดตาอยู่เลย แต่มันก็ยังมีบางสิ่งที่ผมต้องสืบค้นต่อไป ผมคิดว่า Ben มันจะต้องเป็นสมการอะไรซํกอย่าง แต่ผมก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร ถ้าผมได้เจอกับชายชราคนนั้นอีกสักครั้ง ผมก็คงจะได้คำตอบอะไรกลับมาบ้าง ผมต้องการเวลาอีกสักวัน ไม่ก็จนกว่าจะฟื้นฟูจิตใจตัวเอง ให้กลับไปเปิดเกมนั้นอีกครั้ง ตอนนี้ขวัญของผมกระเจิงไปหมดแล้ว แต่รอบหน้าที่ผมจะกลับไปเล่น ผมจะบันทึกทุกอย่างในเกมจนกว่าจะจบ แล้วคุณจะได้เห็นสิ่งเดียวกับที่ผมเห็นอย่างแน่นอน

ตอนนี้ผมยังคงอยู่ในกระทู้ เพื่อจะได้คอยตอบคำถามของทุกคนอีกสักนิด ความเห็นของทุกคน น่าจะช่วยให้ผมรู้ว่าต้องทำอะไรกันต่อ ผมคิดว่าวันพรุ่งนี้ ผมจะลองเข้าไปเล่นในเซฟไฟล์ชื่อ Ben ให้มันรู้กันไปเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น บางที ผมควรจะทำแบบนั้นไปตั้งแต่แรก คือผมไม่เชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติหรอก แต่นี่มันแย่มาก บางทีคนชื่อ เบ็น อาจจะเป็นแฮ็คเกอร์หรือโปรแกรมเมอร์มือดีก็เป็นได้

และนั่นก็คือจุดจบของครีบปี้พาสต้า ผมหวังว่าเรื่องนี้ มันคงจะไม่ไปทำให้นักพัฒนาเกมคนไหน คิดอยากจะไปแฮ็กตัวเกม เพื่อให้ทุกอย่างมันเป็นไปแบบที่ผมเล่า แล้วทำออกมาแจกจ่ายให้ชาวบ้านเล่นกันหรอกนะ เพราะเรื่องที่ผมเจอมานี้ มันทำให้ผมกลัวจริง ๆ

- จบ -

เมเยอราส์แมสก์ครีบปี้พาสต้า หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ เบ็นดราวนด์ มันคือเรื่องเล่าสยองขวัญออนไลน์ ที่พูดถึงเหตุการณ์สุดหลอนของเกมตลับบนเครื่องนินเท็นโด 64 ชื่อ The Legend of Zelda ภาค Majora’s Mask ที่มีประโยคสำคัญในเรื่องว่า “You shouldn’t have done that...” หรือที่แปลว่า นายไม่ควรจะทำแบบนั้น ที่ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องเล่าที่โด่งดังมากในกลุ่มผู้ใช้กระดานข่าวของเว็บไซต์ 4Chan ในหมวด /x/ paranormal

“You shouldn’t have done that...”

ขอบอกเลยว่าผมเองก็แปลกใจ ที่ตัวเองไปถามลุงแบบนั้นเหมือนกัน บางทีตอนนั้นผมคงคิดว่าถ้าถามไปแบบนี้ ลุงคนนี้จะต้องตอบว่าไม่รู้จักวิดีโอเกมแน่ ๆ แล้วผมก็จะได้เดินออกไปจากสถานการณ์แปลก ๆ นี้ได้ทันทีหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่มันกลายเป็นว่า เขาตอบผมว่าเขามีอยู่เกมนึง มันอยู่ในกล่องเก่า ๆ ข้างใน ซึ่งเขาก็บอกให้ผมรอแป๊บนึง ก่อนที่จะเดินกลับเข้าไปในโรงรถตรงนั้น

โดยที่มาของครีบปี้พาสต้าเรื่องนี้ มันเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 7 กันยายน ค.ศ. 2010 วันนั้นมียูสเซอร์ของเว็บไซต์ 4Chan ชื่อ เจดุสเอเบิล (Jadusable) ได้เปิดกระทู้เล่าประสบการณ์ของเขา เกี่ยวกับความหลอนจากตลับเกมเมเจอร่ามาสค์ของเครื่องนินเท็นโด 64 โดยอธิบายเหตุการณ์ทุกอย่างไว้ตามที่มิติที่ 6 ได้นำมาเล่าในข้างต้น โดยในกระทู้นั้นเขาก็ยังได้โพสต์ลิงค์บันทึกการเล่นดังกล่าวเอาไว้ในเว็บไซต์ยูทูป เพื่อให้สมาชิกท่านอื่นดูเป็นหลักฐานด้วย



คลิปของ "เจดุสเอเบิล" หรือ "อเล็กซ์ ฮอลล์"

โดยภายใน คลิปที่ 4 ของการเล่นนั้น มีสมาชิกท่านหนึ่งโพสต์ความเห็นยืนยันว่า เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องกับเจดุสเอเบิล และยืนยันว่าตอนนี้เจดุสเอเบิลได้ย้ายออกจากหอพักไปแล้ว โดยเขาได้มอบแฟลชไดรฟ์ที่ภายในบรรจุคลิปวิดีโอสุดท้ายชื่อว่า free.wmv กับไฟล์เอกสารชื่อ TheTruth.txt โดยสั่งเขาเอาไว้ว่า อย่าเพิ่งอัพมันจนกว่าจะถึงวันที่ 15 กันยายน ค.ศ. 2010 ตอนเวลา 23:04น.


คลิปที่ 4 "อย่าเพิ่งอัพมันจนกว่าจะถึงวันที่ 15...."

ไฟล์เอกสารดังกล่าวถูกแจกจ่ายผ่านเว็บไซต์ Mediafire ภายในคือข้อความที่เจดุสเอเบิล พิมพ์เล่าประสบการณ์ทั้งหมดเอาไว้ โดยเขาบอกว่าเบ็นได้เริ่มอาละวาดในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเขา และพยายามจะติดต่อสื่อสารกับเขาผ่านทางโปรแกรมแช็ทชื่อ Cleverbot ซึ่งเขาได้ทิ้งท้ายเหมือนคำเตือนว่า ไม่มีใครเชื่อหรอกว่ามันมีอะไรบางอย่าง กำลังจะมาอยู่ในแอคเคาท์ยูทูปของเขาแล้ว

จนมาถึงวันที่ 12 กันยายน ค.ศ. 2010 ช่องของ เจดุสเอเบิล (อเล็กซ์ ฮอลล์)  ก็ได้เปลี่ยนภาพโปรไฟล์ เป็นภาพชื่อว่า "เอเลจี้เอมติเนสสแตชิว (Elegy of Emptiness Statue)" หรือรูปปั้นแห่งความว่างเปล่า ในรูปแบบตามภาพที่เห็นนี้ และเปลี่ยนสถานที่อยู่ของตัวเองเป็น “Now I am everywhere...” ที่แปลว่า “ตอนนี้ผมอยู่ทุกที่...”


เรื่อง Ben Drowned ในครีบปี้พาสต้า

และในวันเดียวกันนี้ก็มียูทูปเบอร์ช่อง HolyHeeroYui ที่ปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อเป็น ซายเร็ค เซียเรสท์ (Sairek Ceareste) ได้อัพโหลดคลิปจำนวนหนึ่ง เพื่ออธิบายกลวิธีการสร้างเหตุการณ์ ที่คลิปประกอบเรื่องเล่าได้ทำไว้ว่า เจ้าของเรื่องเล่าทำแบบนั้นได้ เนื่องจากมันเป็นโค้ดลับที่ซ่อนอยู่ในเกมอยู่แล้วนั่นเอง


"HolyHeeroYui" หรือ "ซายเร็ค เซียเรสท์" ออกมาเฉลยว่าเป็นโค้ดลับซ่อนอยู่ในเกม

ต่อมาภายในช่วงปี ค.ศ. 2011 ครีบปี้พาสต้าเรื่องนี้ ก็ได้ถูกโพสต์ไปตามเว็บไซต์กระดานข่าวต่าง ๆ ตั้งแต่ Within Hubris (ปิดไปแล้ว), Joystiq, Kotaku, Xugo Gaming, FunnyJunk, Inu’s Creepy Stuff เรื่อยไปจนถึงแฟนเพจ Facebook อีกหลายแห่ง

ตัวอย่างในกระดานข่าว (Joystiq)

และในเวลาต่อมาก็ได้มีผู้ทำภาพประกอบคำพูดหรือที่เรียกว่า มีม (Meme) โดยใช้คำจากในเรื่องเล่านี้ออกเผยแพร่ตามมาอีกจำนวนหนึ่ง

ตัวอย่าง "มีม (Meme)"

ปัจจุบันหลังจากวันคืนผ่านไปเรื่อย ๆ โลกอินเตอร์เน็ตเริ่มก้าวเข้าสู่ยุคของการมีตัวตน ช่องยูทูปของเจดุสเอเบิ้ล ก็ได้ถูกเปลี่ยนชื่อจากนามเรียกขานมาเป็นชื่อจริงของเขา นั่นก็คือ อเล็กซ์ ฮอลล์ (Alex Hall) โดยเขาได้ประกาศเอาไว้ใน ทวิตเตอร์ ว่า ครีบปี้พาสต้าของเขาเรื่องนี้มันยังไม่จบ แต่ต้องหยุดทำไปก่อน อย่างไรแล้วก็อย่าลืมติดตามกันไปเรื่อย ๆ เพียงแต่มาจนถึงวันนี้เขาก็ยังไม่ได้เล่าอะไรต่ออีกเลย จะมีก็แต่ทวิตเล่าชีวิตประจำวัน กับความภูมิใจที่เรื่องเล่าของเขา ได้กลายเป็นหนึ่งในเรื่องเล่าคลาสสิคตลอดกาลเพียงเท่านั้น

ทวิตเตอร์ของ "อเล็กซ์ ฮอลล์"

ทางด้านแฟนอาร์ตก็มีนักวาดจำนวนมากที่ชื่นชอบครีบปี้พาสต้าเรื่องนี้ วาดภาพประกอบเหตุการณ์ขึ้นมา ภายใต้แฮชแท็ก #majoras mask creepy


แฟนอาร์ตและโดจิน "เมเยอราส์แมสก์"
(ภาพจาก: Kuro-Torii, Brittani151, scilk และ Knowyourmeme)


ซึ่งพอมาถึงตรงนี้ ข้อมูลทุกอย่างมันก็มากพอที่จะทำให้เราสามารถสรุปออกมาได้ว่า "เบ็นดราวน์" หรือ "เมเยอราส์แมสก์ครีบปี้พาสต้า" เป็นเพียงเรื่องที่ถูกแต่งขึ้นมา โดยใช้สูตรลับที่ถูกซ่อนอยู่ในเกมจริง ๆ มาใช้สร้างเหตุการณ์ประกอบเรื่องเล่า ดังนั้นใครที่เป็นแฟนคลับของลิงค์ โปรดจงสบายใจว่ามันไม่มีอะไรนอกจากเรื่องเล่าออนไลน์จริง ๆ

และเราก็คงต้องพูดวลีเดิม ๆ กันอีกครั้ง ว่าถ้าหากมีใคร นำเรื่องเบ็นดราวน์หรือเมเยอราส์แมสก์ครีบปี้พาสต้าเรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟังในวงสนทนา มิติที่ 6 ก็อยากจะบอกกับท่านผู้ชมว่า ขอจงอย่าได้ไปทำอะไร ที่จะทำให้เรื่องเล่าเรื่องนี้ ต้องหยุดชะงักไประหว่างการเล่าจะดีเป็นที่สุด นั่นก็เป็นเพราะว่าความจริงนั้น มันช่างไม่มีเสน่ห์... เอาเสียเลย !?

แล้วอย่าลืมติดตามรายการมิติที่ 6 ศุกร์สยองขวัญ กับเรื่องราวเบา ๆ พร้อมกับที่มาของมันกันได้ทุกวันศุกร์สะดวก และหลังจากจบรายการแล้ว อย่าลืมกดสับสไครป์ กดไลก์ กดแชร์ และอย่าลืมทิ้งคอมเมนต์กันไว้ด้วยนะครับ ยังมีเรื่องราวต่าง ๆ อีกมากมายรอคุณอยู่ สำหรับวันนี้... สวัสดี !

แปลและเรียบเรียงโดย นิวัฒน์ อ่ำแสง
ขอบคุณที่มา: Knowyourmeme
External References:
Jadusable Wiki – Arc 2 Page / Oct 1 2010
Jadusable Wiki – Jadusable Wiki
Alex Hall’s Twitter – Twitter Page
Within Hubris – Hubris Project Put on Hold / Jul 15 2011
Facebook – Jadusable’s Haunted Majora’s Mask Cartridge
Chanarchive – Marjora’s Mask OC Part 1
Within Hubris – THE HAUNTED CARTRIDGE – THECOMPLETE STORY
Mediafire – TheTruth.txt
Joystiq – Haunted Majoras Mask Cartridge
Kotaku – The Haunting of Majora’s Mask Cartridge
Xugo Gaming – Majoras Mask Creepypasta will ruin your childhood
FunnyJunk – Majoras Mask Creepypasta
Inu’s Creepy Stuff – Majora
Within Hubris – Userful Sites and Pages
Within Hubris – A Comprehensive Guide to the Story
DeviantArt – #majoras mask creepy
Within Hubris – A Present From Me to You

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ประกาศ

เพื่อเป็นกำลังใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กับเรา ขอความร่วมมือจากผู้ที่นำเรื่องราวจากมิติที่ 6 ไปใช้ในที่ของท่าน กรุณาลงเครดิตกลับมาที่เราจะเป็นพระคุณอย่างสูงครับ