ไม่ว่าทุกวันนี้เทคโนโลยีจะก้าวไปไกลขนาดไหน โลกมนุษย์จะพัฒนากันไปสักเท่าใด มันก็ไม่ได้หมายความว่า โลกแห่งความตายนั้นจะไม่พัฒนาหาช่องทางติดต่อกับคนเป็นได้อยู่ดี !
กดเพื่อดูคลิปที่นี่ |
มิติที่ 6 ศุกร์สยองขวัญ กับเรื่องราวเบา ๆ ในวันศุกร์สะดวกสัปดาห์นี้ เราจะพาคุณไปพบกับเรื่องราวของชายหนุ่มคนหนึ่ง กับข้อความแชทบนเฟซบุ๊กของอดีตภรรยาที่ตายไป ว่าเรื่องนี้.. มันคืออะไรกันแน่ !?
โดยเรื่องราวนั้นมีอยู่ว่า
เอมิลี่ แฟนของผม เธอเสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ค.ศ. 2012 วันนั้นผมได้รับข้อความบอกเล่า มันดูแย่กว่าข้อความอื่น ๆ บอกว่าเธออยู่ในเหตุการอุบัติเหตุรถยนต์ 3 คันชนกันในช่วงระหว่างเดินทางกลับจากที่ทำงาน เหตุเกิดจากตอนนั้นมีคนวิ่งฝ่าไฟแดง เธอจึงเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ
เราเคยออกเดทกันเมื่อห้าปีก่อน เธอไม่ค่อยสนใจเรื่องแต่งงานสักเท่าไหร่ เธอบอกว่ามันเป็นพิธีสำหรับพวกหัวโบราณมันทำให้เธอรู้สึกแปลก ๆ แต่สุดท้ายเธอก็ได้แต่ง ผมขอเธอแต่งงานหลังจากที่เราคบหากันได้ 3 เดือน ดูเธอจะดีใจมาก เธอเป็นสาวมั่นที่เข้มแข็งและมีความสุขที่ได้ออกไปตั้งแคมป์ เห็นแบบนั้นแต่เธอก็ชอบพวกเทคโนโลยีใหม่ ๆ เหมือนกัน ถึงเธอจะมีกลิ่นตัวเหมือนอบเชยก็เถอะ ก็อย่างที่พูดไปเธอไม่ได้เป็นคนสมบูรณ์แบบ เธอมักจะพูดจาอะไรอย่างเช่น
“ถ้าฉันทำมันตาย.. อย่ามาพูดเอาใจว่าฉันนะ ! ฉันไม่ชอบอะไรแบบนั้น ! ถ้าเธอไม่ทำตามก็เหมือนกับทำร้ายฉัน ฉันมีอะไรไม่ดีตั้งเยอะแยะ.. แต่มันก็เป็นส่วนหนึ่งของฉัน !”
ส่วนตรงนี้ผมขออุทิศให้กับเธอ เพลงที่เธอบอกว่าเธอชอบ ถึงมันจะเป็นเพลงที่แปลกมาก ๆ ก็เถอะ เธอบอกว่าฟังแล้วมันเหมือนกับมีใครสักคนมากอด เธอมีนิ้วหัวแม่เท้าที่ยาวมากจนเหมือนกับลิงชิมแปนซีเลยหละ ผมรู้ดีว่ามันเป็นแค่ความรู้สึก แต่ผมรู้สึกว่ามันไม่ใช่เลย ที่ตอนนี้ไม่มีคนมาคอยบอกว่าตัวเองเป็นคนแบบไหนอีกแล้ว ทีนี้มันมีข้อความจากเธอมาหาผม ทั้ง ๆ ที่เอมิลี่เสียไปเกือบจะ 13 เดือนแล้ว
นี่คือจุดเริ่มต้น หลังจากเธอเสียชีวิตผมไม่ได้แจ้งปิดแอคเคาท์เฟซบุ๊กของเอมิลี่ เพื่อผมจะได้คอยส่งข้อความหาเธอบ้าง ได้โพสต์อะไรที่หน้าวอลล์ของเธอ และคอยส่องดูรูปของเธอ มันดูสิ้นหวังจริง ๆ ที่ต้องทำแบบนี้ทั้งที่ไม่มีเอมิลี่แล้ว
ซึ่งผมเองก็ได้มอบพาสเวิร์ดของเอมิลี่ให้กับซูซานแม่ของเธอด้วย นั่นหมายความว่าซูซานจะสามารถล็อกอินเข้ามาในเฟซบุ๊กของเอมิลี่ได้เช่นกัน ซึ่งแม่ยายของผมก็เข้าไปในแอคเคาท์ของเอมิลี่อยู่เพียงแค่ 3 นาทีเท่านั้น ตอนนั้นผมก็เลยคิดว่าคนที่ส่งข้อความมาอาจเป็นซูซานก็ได้
-----------------------
ผมได้รับการยืนยันมาจากซูซานว่า เธอไม่ได้เข้าไปในเฟซบุ๊กของเอมิลี่มาตั้งแต่สัปดาห์แรกที่เอมิลี่เสียชีวิตไป แต่เอมิลี่เองก็รู้จักคนเยอะแยะ ผมก็เลยคิดว่ามันอาจจะมีใครสักคนที่เก่งพอที่จะมาทำล้อเล่นบ้า ๆ กับผมแบบนี้
-----------------------
ประมาณช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปี ค.ศ. 2014 เอมิลี่เริ่มที่จะแท็กตัวเองลงในภาพของผม ผมได้รับการแจ้งเตือนจากระบบ พอผมกดเข้าไปดูที่ภาพแท็กพวกนั้นมันก็หายไปทันที และครั้งแรกที่ผมเห็น มันให้ความรู้สึกเหมือนมีใครต่อยเข้าที่ท้องอย่างแรง เพราะใครสักคนที่ใช้เฟซบุ๊กของเอมิลี่ตอนนี้ ได้แท็กตัวเองไว้ตรงบริเวณที่ว่าง ซึ่งเป็นจุดที่เอมิลี่น่าจะต้องอยู่ถ้าเธอยังไม่ตาย หรือไม่ก็อยู่ในจุดที่เธอมักจะชอบออกไปเที่ยว ผมมีภาพที่แค็ปเอาไว้สองภาพ มันเป็นภาพช่วงเดือนเมษายนและมิถุนายน
"ส่วนภาพนี้เป็นเพียงภาพเดียวที่ผมแค็บไว้ได้ก่อนที่ผมจะเริ่มเขียนเรื่องนี้"
"ตอนนี้ผมโกรธมาก โกรธจนนอนไม่หลับแล้ว !"
ใครคนนั้นใช้เฟซบุ๊กของเอมิลี่แท็กภาพต่าง ๆ ทุก 2 สัปดาห์ พวกเพื่อน ๆ ที่เริ่มผิดสังเกตก็คิดว่ามันอาจจะเป็นความผิดพลาดของระบบ ซึ่งผมก็พบข้อความจากเพื่อน ๆ จำนวนหนึ่งที่สังเกตเห็นสิ่งนี้ แต่ผมก็ไม่ได้ทักอะไรกลับไป เพื่อนบางคนถึงกับลบผมออกจากเพื่อนในเฟซบุ๊กก็มี
ถึงตรงนี้พวกคุณคงจะสงสัยว่าทำไมผมถึงไม่ลองลบเฟซบุ๊กตัวเองดูก่อน ผมก็อยากจะบอกว่าผมทำไปแล้วครั้งหนึ่ง แล้วทั้งวันนั้นผมก็ทนไม่ได้ ก็มันรู้สึกดีจะตายที่มีเพื่อนให้แชทคุยกัน และมันก็รู้สึกดีที่ยังเห็นว่าแชทของเอมิลี่ยังขึ้นสถานะพร้อมคุย และตั้งแต่ที่เอมิลี่ตายไป ผมก็กลายเป็นพวกหนีโลกหรือเป็นอะไรสักอย่างที่เหมือนกับพวกฤๅษีชีไพร เพราะเฟซบุ๊กและเกมออนไลน์มันกลายเป็นโลกของผมไปแล้ว
-----------------------
-----------------------
มันใช้เวลาประมาณ 2 เดือนหลังจากที่ผมส่งแชทไป ซึ่งผมก็พบว่าใครคนนั้นตอบกลับมาด้วยข้อความเดียวกันกับที่ผมพิมพ์ส่ง ความรู้สึกของผมกับเรื่องนี้เริ่มจะไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ ผมพยายามทำเป็นมีอารมณ์นิด ๆ เพื่อให้เขาหรือเธอคนนั้นยังคงเล่นสนุกไปเรื่อย ๆ และพยายามล้วงเอาความจริงออกมาให้ได้ว่าคนนี้มันเป็นใคร ถึงได้ทำตัวเป็นพวกยินดีในความทุกข์ของคนอื่นแบบนี้
ผมได้ไปโพสต์ถามตามกระดานข่าวแนวเทคโนโลยี พยายามค้นหาทุกทางว่าเขาคือใครจากลิสต์ผู้ติดต่อในเฟซบุ๊ก แต่ก็ทำได้เพียงหาหลักฐานเรื่อยไป แล้วสุดท้ายผมก็จัดการเปลี่ยนพาสเวิร์ตและข้อมูลความปลอดภัยอีกหลายหน
-----------------------
-----------------------
ผมไม่ได้คิดจะเข้ามาตรวจที่จุดนี้เลย จุดที่เฟซบุ๊กสามารถบอกผมได้ว่าคนที่ใช้เฟซบุ๊กของเอมิลี่นั้นเข้ามาจากที่ไหน แต่กลายเป็นว่าตั้งแต่วันที่เธอตายไป ใครคนนั้นเข้าใช้เฟซบุ๊กของเธอในสถานที่ ๆ ผมรู้จัก ไม่ว่าจะเป็นบ้านผมเอง ที่ทำงานของผม หรือบ้านแม่ของเอมิลี่
ผมรู้สึกว่านี่มันไม่ใช่เรื่องล้อเล่นเมื่อเห็นข้อความจากเอมิลี่ว่า “โย่ ! ถามหน่อยนาธาน” ที่จริงแล้วมันดูเหมือนกับมุกตลกฝืด แต่มันทำให้ผมรู้สึกแทบจะหมดแรงราวกับได้เห็นเธอกลับมาอีกครั้ง ผมรู้สึกแบบนั้นจริง ๆ และข้อความสองสามประโยคสุดท้าย มันก็เริ่มทำให้ผมหลอนขึ้นมา แต่ผมไม่ยอมเชื่อง่าย ๆ หรอก
-----------------------
คำว่า 'FRE EZIN G' ที่พิมพ์แบบนี้ มันเป็นประโยคแรกที่เธอพิมพ์กลับมา โดยไม่ได้ใช้ประโยคที่ผมพิมพ์ออกไป สิ่งนี้มันกลายเป็นฝันร้ายที่ไม่รู้จบ ผมฝันตลอดว่าเห็นเธออยู่ในรถยนต์ที่ทำจากน้ำแข็ง มันดูหนาวมาก ๆ ท่ามกลางบรรยากาศสีน้ำเงินและเทา ผมยืนอยู่นอกตัวรถที่อบอุ่นคอยร้องเรียกให้เอมิลี่ออกมาจากรถน้ำแข็งคันนั้น ในฝันนั้นเธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมอยู่ตรงนี้ บางครั้งขาของเธอก็ออกมาอยู่นอกรถกับผม
-----------------------
จากภาพที่เห็นจริง ๆ แล้วผมไม่ได้เมา เอมิลี่ไม่ได้เป็นคนน่ารักสักเท่าไหร่ เธอมักจะเขินอายทุกครั้งที่ต้องพูดว่า “ฉันรักเธอ” หรือการกอด และพูดเรื่องที่รู้กันเพียงแค่เราสองคน ซึ่งเอมิลี่จะรู้สึกผ่อนคลายถ้าผมดื่ม ผมจึงแกล้งทำเป็นว่าผมเมาให้เธอเห็นเท่านั้นเอง
สิ่งที่เธอตอบกลับมา มันก็ทำให้ภาพของเธอกลับเข้ามาในความทรงจำ ผมกำลังคิดว่าเรื่องนี้มันอาจกำลังจะจบวันนี้ ส่วนข้อความก่อนหน้านั้นมันไม่มีประโยชน์อะไร เพราะผมจำได้ว่ามันมาจากข้อความสนทนาเก่า ๆ สมัยที่ผมเคยพยายามขอเธอยอมให้ผมขับรถพาเธอไปส่งที่บ้าน
ในอุบัติเหตุครั้งนั้นแผงหน้ารถยุบเข้ามาบดที่ร่างของเธอ สะโพกขวาของเธอถูกแรงกระแทกฉีกขาดยาวไปจนถึงส่วนกลางของต้นขาซ้าย ขาข้างหนึ่งของเธอถูกพบอยู่บริเวณที่นั่งด้านหลัง
-----------------------
มีข้อความที่ผมส่งถึงเธอในวันที่เธอเสียชีวิต เธอมักจะกลับถึงบ้านตอนประมาณสี่โมงครึ่ง ผมส่งข้อความพวกนี้ไปพร้อมกับข้อความเสียงอีกสองครั้ง และครั้งสุดท้ายที่ผมได้พูดคุยกับเอมิลี่นั้น ผมคาดว่าเธอน่าจะยังมีชีวิตอยู่ แล้วคุณจะรู้ว่าทำไมผมถึงนำสิ่งนี้มาให้ดู
-----------------------
ผมได้รับข้อความนี้เมื่อวานนี้ ผมจำได้ว่าสองสามวันก่อนเอมิลี่เคยส่งข้อความเกี่ยวกับเรื่องการเดิน มาจนถึงวันนี้เธอก็เงียบไปทุกอย่าง ไม่มีแม้แต่การมาแท็กตัวเองบนภาพของผม
ผมไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงต่อแล้วตอนนี้ ผมควรจะลบแอคเคาท์ของเธอทิ้งจากเฟซบุ๊กหรือเปล่า ? แล้วถ้านี่เป็นเธอจริง ๆ ล่ะ ? ผมรู้สึกอึดอัดจนอยากจะอาเจียน ผมไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ !
ตอนนี้ผมได้ยินเสียงแจ้งเตือนอีกแล้ว ผมกลัวที่จะต้องเข้าไปดูข้อความในเฟซบุ๊กจริง ๆ !
-----------------------
นั่นมันประตูห้องของผม นั่นมันคอมพิวเตอร์ของผม ผมได้รับข้อความนี้เมื่อสามชั่วโมงที่แล้ว แต่เพิ่งจะได้เปิดเมื่อสักครู่นี้เอง ตอนนี้ผมกลัวมาก ผมไม่รู้ว่าใครถ่ายภาพนี้กันแน่ !
ผมใช้แทบเบลตที่โรงรถและกำลังจะขับรถออกไปหาเพื่อนแล้ว ผมคงกลัวมากเกินไปจนลืมปิดประตูโรงรถ เดี๋ยวคงต้องย้อนกลับไปปิดมันก่อนจะดีกว่า
ผมใช้แทบเบลตที่โรงรถและกำลังจะขับรถออกไปหาเพื่อนแล้ว ผมคงกลัวมากเกินไปจนลืมปิดประตูโรงรถ เดี๋ยวคงต้องย้อนกลับไปปิดมันก่อนจะดีกว่า
--จบ--
แฟนของผมยังส่งข้อความหาผมบนเฟซบุ๊ก หรือ My Dead Girlfriend Keeps Messaging Me on Facebook เป็นเรื่องราวสยองขวัญออนไลน์หรือที่เรารู้จักกันในชื่อครีบปี้พาสต้า ที่พูดถึงเหตุการณ์แปลกประหลาด ที่เกิดขึ้นหลังจากวันที่นาธานผู้เล่าเรื่องนี้ได้พบกับข้อความที่ส่งคุยกันในเฟซบุ๊ก ว่ามันมาจากแอคเคาท์ของภรรยาตัวเอง
โดยที่มาของเรื่องราวนี้มาจากกระทู้บนเว็บไซต์เรดดิทหมวด /r/nosleep หรือหมวดเรื่องเล่าหลอนนอนไม่หลับ โดยสมาชิกที่ใช้ชื่อว่า natesw ได้โพสต์ไว้เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 2014 ในชื่อกระทู้ว่า แฟนของผมยังส่งข้อความหาผมบนเฟซบุ๊ก ผมมีภาพให้ดูด้วย ผมไม่รู้จะทำยังไงดี
โดยใช้เทคนิคการเล่าจากบันทึกไดอารี่ของนาธาน และแนบลิงค์ภาพบทสนทนาประกอบการเล่าเรื่อง ที่เรียกได้ว่าสามารถสร้างความน่ากลัวอย่างมาก ถ้าไม่เห็นว่าเป็นเรื่องเล่าจากหมวดโนสลีปหลายคนก็คงคิดว่ามันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงแน่ ๆ
โดยใช้เทคนิคการเล่าจากบันทึกไดอารี่ของนาธาน และแนบลิงค์ภาพบทสนทนาประกอบการเล่าเรื่อง ที่เรียกได้ว่าสามารถสร้างความน่ากลัวอย่างมาก ถ้าไม่เห็นว่าเป็นเรื่องเล่าจากหมวดโนสลีปหลายคนก็คงคิดว่ามันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงแน่ ๆ
"natesw" หรือ "นาธาน" เจ้าของเรื่อง |
โดยในตอนแรกเรื่องราวจบลงที่นาธานเจ้าของกระทู้บอกว่า เขาได้ยินเสียงข้อความแจ้งเตือนขึ้นมาต้องไปตรวจในเฟซบุ๊กก่อน ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นการจบเรื่องที่สร้างความคาใจให้กับสมาชิกหลายคน
นั่นจึงทำให้มีสมาชิกบางคนพยายามต่อยอดเรื่องเล่านี้ โดยสร้างเรื่องเล่าของตัวเองมาต่อให้จบ จนในที่สุด natesw ก็กลับมาโพสต์ ข้อความตอบ เพื่อทำให้เรื่องนี้จบลงในแบบที่เขาต้องการ ด้วยการโพสต์รูปถ่ายที่อ้างว่าเอมิลี่ส่งภาพถ่ายนอกประตูห้องของเขามาให้ จนทำให้เขากลัวจนรีบออกไปที่โรงรถเพื่อขับรถไปบ้านเพื่อน ทั้ง ๆ ที่ลืมปิดประตูโรงรถ และจบเรื่องราวโดยเขาต้องลงรถไปปิดมันเสียก่อน
นั่นจึงทำให้มีสมาชิกบางคนพยายามต่อยอดเรื่องเล่านี้ โดยสร้างเรื่องเล่าของตัวเองมาต่อให้จบ จนในที่สุด natesw ก็กลับมาโพสต์ ข้อความตอบ เพื่อทำให้เรื่องนี้จบลงในแบบที่เขาต้องการ ด้วยการโพสต์รูปถ่ายที่อ้างว่าเอมิลี่ส่งภาพถ่ายนอกประตูห้องของเขามาให้ จนทำให้เขากลัวจนรีบออกไปที่โรงรถเพื่อขับรถไปบ้านเพื่อน ทั้ง ๆ ที่ลืมปิดประตูโรงรถ และจบเรื่องราวโดยเขาต้องลงรถไปปิดมันเสียก่อน
โดยในส่วนของกระทู้ต้นทางเองก็มีผู้คนเข้ามาแสดงความเห็นกันต่ออีกมากมาย บานปลายจนมีเว็บไซต์ข่าวแนวบันเทิงหลายแห่ง นำเรื่องนี้ไปเล่าไว้บนเว็บไซต์ของตัวเอง โดยไม่ลืมที่จะบอกว่ามันเป็นครีบปี้พาสต้าจากสมาชิกเรดดิทเท่านั้น
จนเวลาผ่านไปถึงวันที่ 29 กรกฎาคม ปี ค.ศ. 2014 เว็บไซต์ ครีบปี้พาสต้าวิกิ ก็ได้นำเรื่องนี้มาบรรจุลงเป็นหนึ่งในเรื่องเล่าสยองขวัญหมวดคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ตโดยสมาชิกชื่อว่า Deathknight3000 และสามารถสร้างความหลอนจนแซงเรื่องอื่น ๆ ในหมวดเดียวกัน ขึ้นมาเป็นระดับเรื่องเล่าคลาสสิคอีกหนึ่งเรื่อง
เป็นเรื่องหนึ่งในเรื่องเล่าคลาสสิคของ "ครีบปี้พาสต้า" |
แต่พอเรื่องนี้เข้ามาถึงเมืองไทยเมื่อช่วงเดือนมกราคมปี ค.ศ. 2015 หรือ พ.ศ. 2558 เว็บไซต์ คลิปแมสด็อตคอม ก็ได้นำเรื่องนี้มาเล่า โดยให้เครดิตว่านำมาจากเว็บไซต์ยำสยอง ซึ่งก็ถือว่าเป็นต้นทางของเรื่องเล่าเรื่องนี้ในประเทศไทยที่เก่าที่สุด ที่พอจะหาพบได้ในตอนนี้
ใน "คลิปแมส" ก็มีการกล่าวถึงโดยนำมาจาก "ยำสยอง" |
และอีก 5 เดือนต่อมา ในวันที่ 16 พฤษภาคมปีเดียวกัน แฟนเพจเฟซบุ๊กชื่อ เรื่องสยองสำหรับชาวหลอน ก็ได้นำเรื่องนี้มาเล่าอีกครั้ง พร้อมกับนำภาพประกอบที่ถูกตกแต่งเพิ่มเติมมาให้ชม โดยบอกไว้ตั้งแต่ก่อนเล่าเรื่องว่ามันเป็นเรื่องสยองขวัญจากเว็บไซต์เรดดิท
เฟซบุ๊กแฟนเพจ "เรื่องสยองสำหรับชาวหลอน" ก็ได้นำมาเผยแพร่อีกครั้ง |
และไม่รู้ว่าจะเป็นเรื่องบังเอิญหรือเปล่า หลังจากที่เรื่องเล่านี้มาถึงเมืองไทย ที่เว็บไซต์ พันทิป ก็ได้มีเรื่องราวน่ากลัวสยองขวัญบางเรื่อง ถูกเล่าออกมาด้วยเทคนิคและวิธีการเล่าใกล้เคียงกัน จนมีบางเรื่องที่แต่งขึ้นใหม่จากเว็บไซต์พันทิปนี้ ได้ถูกเว็บไซต์ข่าวแนวบันเทิงของไทยนำไปเสนอว่า ตอนมีเรื่องสยองขวัญแนวใหม่เกิดขึ้นแล้ว
เรื่องนี้ที่ถูกถามในพันทิป |
เรื่องที่คล้ายกันในพันทิป |
ซึ่งมิติที่ 6 เองก็คงต้องขอสรุปว่า "แฟนของผมยังส่งข้อความหาผมบนเฟซบุ๊ก" เป็นเพียงเรื่องที่ถูกแต่งขึ้นมา จากเว็บไซต์เรดดิทในหมวดเรื่องเล่าสยองขวัญ เพียงแต่เราก็อยากรู้เช่นกันว่าท่านผู้ชมคิดว่าเรื่องนี้มันน่ากลัวจริง ๆ หรือเปล่า ? อย่างไรแล้วก็อย่าลืมช่วยกันกดโหวต ด้วยการกดไปที่ปุ่มสัญลักษณ์ ( i ) ที่บริเวณมุมบนขวาของคลิปกันด้วยนะครับ
และก็เหมือนกับทุกครั้ง ถ้าหากมีใครนำเรื่องแฟนของผมยังส่งข้อความหาผมบนเฟซบุ๊กมาเล่ากันในวงสนทนา มิติที่ 6 ก็อยากจะบอกกับท่านผู้ชมว่า ขอจงอย่าได้ไปทำอะไรที่จะทำให้เรื่องเล่าเรื่องนี้ต้องหยุดชะงักไประหว่างทางจะดีเป็นที่สุด นั่นก็เป็นเพราะว่าความจริงนั้น มันช่างไม่มีเสน่ห์.. เอาเสียเลย !
แล้วอย่าลืมติดตามชมรายการมิติที่ 6 ศุกร์สยองขวัญ กับเรื่องราวเบา ๆ พร้อมกับที่มาของมันกันได้ทุกวันศุกร์สะดวก อย่าลืมกดสับสไครป์ กดไลก์ กดแชร์ หรือทิ้งคอมเมนต์กันไว้ด้วยนะครับ ยังมีเรื่องราวต่าง ๆ อีกมากมายรอคุณอยู่ สำหรับวันนี้.. สวัสดี
ขอบคุณที่มา:
Creepypasta Wiki - My Dead Girlfriend Keeps Messaging Me on Facebook
Pantip - เฟซบุ๊กคนตายที่อ่านแชท
หมีแพนด้า - หนุ่มทักเฟซบุ๊กแฟนเก่าที่ตายไปแล้ว
แท็ก: แฟนของผมยังส่งข้อความหาผมบนเฟซบุ๊ก, My Dead Girlfriend Keeps Messaging Me on Facebook, วิญญาณแฟนสาวบนเฟซบุ๊ก, แฟนสาวที่ตายไป, หนุ่มทักเฟซบุ๊กแฟนเก่า, ที่ตายไป, Emily, เอมิลี่, Nathan, นาธาน
แท็ก: แฟนของผมยังส่งข้อความหาผมบนเฟซบุ๊ก, My Dead Girlfriend Keeps Messaging Me on Facebook, วิญญาณแฟนสาวบนเฟซบุ๊ก, แฟนสาวที่ตายไป, หนุ่มทักเฟซบุ๊กแฟนเก่า, ที่ตายไป, Emily, เอมิลี่, Nathan, นาธาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น