28 เมษายน 2560

มิติที่ 6 ศุกร์สยองขวัญ ไขปริศนา Robert The Doll ตุ๊กตาอาถรรพ์แห่งเมืองคีย์เวสท์ !!!




ช่วงยุคปลาย ค.ศ. 1800 โธมัส อ็อตโต้ และครอบครัว ได้ย้ายเข้ามาอาศัยอยู่ในแมนชั่นแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่มุมระหว่างถนนอีตันและไซมอนตัน เมืองคีย์เวสท์ รัฐฟลอริด้า ปัจจุบันเป็นที่รู้จักกันในชื่ออาร์ติสท์เฮาส์ ซึ่งครอบครัวนี้เป็นที่รู้กันดีของคนแถบนั้นว่าพวกเขาชอบใช้ความรุนแรงกับคนรับใช้ และหนึ่งในคนรับใช้นั้นก็คือหญิงชาวไฮติที่เป็นต้นกำเนิดของเรื่องราวทั้งหมด

มิติที่ 6 ศุกร์สยองขวัญกับเรื่องราวเบา ๆ ในวันศุกร์สะดวกสัปดาห์นี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับตุ๊กตาอาถรรพ์ตัวหนึ่ง ที่แม้แต่ทุกวันนี้ก็ยังมีผู้คนโดนคำสาปกันอยู่เสมอมา ว่าเรื่องนี้... มันคืออะไรกันแน่ !?

เปิดชมบนยูทูป

โดยเรื่องราวนั้นมีอยู่ว่า

หลังจากที่สาวใช้ชาวไฮติถูกจ้างมาเพื่อดูแลลูกชายของครอบครัวที่ชื่อโรเบิร์ต ยูจีน อ็อตโต้นั้น ในวันหนึ่ง คุณนายอ็อตโตพบว่าสาวใช้คนนี้กำลังทำพิธีมนต์ดำบางอย่างอยู่ที่สวนหลังบ้าน และเรื่องนี้มันก็ทำให้เธอต้องถูกไล่ออกจากงานเพราะเกรงว่าสักวันสาวใช้คนนี้จะต้องก่อปัญหาอย่างอื่นขึ้นมาแน่ ๆ

แต่ก่อนที่เธอจะขนของออกไปนั้น สาวใช้ได้มอบตุ๊กตาตัวหนึ่งให้กับโรเบิร์ต มันเป็นตุ๊กตาเด็กผู้ชายความสูงสามฟุต ที่ดวงตาทำจากเม็ดกระดุมสีดำและเส้นผมของมันทำมาจากเส้นผมของมนุษย์ โดยวัสดุที่ใช้ยัดไส้ในก็คือเส้นฟางจากธรรมชาติเท่านั้นเอง

(ภาพจาก: Courtesy Key West Art & Historical Society)

ตุ๊กตาเด็กชายตัวนี้ไม่เคยถูกพบจากที่ไหน มันไม่เคยมีประวัติจากโรงงานใด หรือเคยลงโฆษณาตามหนังสือพิมพ์มาก่อน หมายความว่ามันน่าจะเป็นตุ๊กตาที่มีเพียงตัวเดียวบนโลกนี้ นั่นจึงทำให้มันกลายเป็นของพิเศษสำหรับโรเบิร์ต เขาตั้งชื่อมันตามชื่อของตัวเอง และมักจะสวมเสื้อผ้าเหมือน ๆ กับมันอยู่บ่อย ๆ

โดยชื่อที่โรเบิร์ตตั้งให้กับเจ้าตุ๊กตาตัวนี้ก็คือ โรเบิร์ตเดอะดอลล์ หรือ ตุ๊กตาโรเบิร์ต และทั้งสองก็กลายมาเป็นคู่หู โรเบิร์ตไปอยู่ที่ไหนเจ้าตุ๊กตาโรเบิร์ตก็จะต้องอยู่ที่นั่น ไม่ว่าจะไปเดินช็อปปิ้งในเมืองหรือเดินเที่ยวเล่นที่แห่งใด ช่วงทานอาหารเย็นมันก็จะได้ที่นั่งมาร่วมวงกับเขาด้วย ซึ่งสิ่งที่คนในครอบครัวยังไม่รู้นั้นก็คือ ยามที่ทุกคนเผลอโรเบิร์ตจะแอบหยิบอาหารให้มันกินทุกครั้ง พอถึงเวลานอนมันก็จะไปนอนร่วมกับเด็กชายบนเตียง ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างเด็กกับตุ๊กตาเช่นนี้ ในสายตาของพ่อแม่มันดูไม่ได้มีอะไรผิดปกติสำหรับเด็กทั่วไป

แต่หลังจากนั้นไม่นานแม่ของโรเบิร์ตก็ได้ตำหนิเด็กชายว่า ตัวเองชื่อโรเบิร์ตอยู่แล้วจะไปตั้งชื่อตุ๊กตาให้เหมือนตัวเองทำไม โรเบิร์ตกลับตอบแม่ของเขาว่า โรเบิร์ตนั้นเป็นชื่อของตุ๊กตา ส่วนเขาจะใช้ชื่อกลางเรียกตัวเองว่ายูจีนแทน ทำให้ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาเด็กชายก็ถูกเรียกชื่อสั้น ๆ ว่า "จีน" และเรียกชื่อตุ๊กตาตัวนั้นว่า "โรเบิร์ต"

จีนมักจะเล่าว่าเขาได้ยินเสียงของเล่นในห้องพูดคุยกับเจ้าโรเบิร์ต และเมื่อจีนพูดแทรกการสนทนาขึ้น มันก็จะมีเสียงต่ำ ๆ ของใครบางคนตอบกลับมา บางเวลาที่จีนมีปัญหาชีวิตคนในบ้านจะเป็นห่วงเขาอย่างมาก เพราะพวกเขามักจะเห็นเด็กชายหลบไปนั่งคุดคู้อยู่ที่มุมห้อง ในขณะที่ตุ๊กตาโรเบิร์ตนั่งเอนหลังอยู่ที่เก้าอี้ หรือไม่ก็นอนอยู่บนเตียงในอิริยาบถแสนสบายใจ ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันก็เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น

บางวันคนในบ้านจะพบว่าข้าวของต่าง ๆ ถูกรื้อกระจายจนเต็มห้อง ของเล่นของจีนก็ถูกดึงแยกส่วนไม่ก็ถูกผ่าออกเป็นชิ้น ๆ และที่ทำให้เหล่าคนรับใช้ต้องขวัญผวาก็คือ พวกเขามักจะได้ยินเสียงใครบางคนหัวเราะคิกคัก ทั้ง ๆ ที่ในห้องนั้นมันควรจะมีเพียงเด็กชายอยู่เพียงคนเดียว และเมื่อมีเหตุการณ์ผิดปกติแบบนี้เกิดขึ้นมาทีไร จีนก็มักจะบอกว่า “โรเบิร์ตเป็นคนทำ !!!” ถึงเขาจะถูกพ่อแม่ลงโทษเพราะเรื่องนี้สักกี่ครั้ง จีนก็ยังคงยืนยันว่า “มันเป็นฝีมือของโรเบิร์ต !!!”

ความน่ากลัวได้เพิ่มพูนมากขึ้น คนรับใช้ที่เข้ามาทำงานต่างพากันลาออก พอจ้างคนใหม่เข้ามาแทน พวกเขาก็ลาออกไปในเวลาอีกไม่นาน จนคนในบ้านเริ่มฉุกคิดขึ้น ว่าตอนนี้พวกเขาต้องทำอะไรสักอย่าง ป้าคนโตแนะนำให้พ่อแม่ของจีนเอาตุ๊กตาโรเบิร์ตไปซ่อนไว้ไหนก็ได้ เช่นจับมันยัดใส่กล่องไปเก็บไว้ที่ห้องใต้หลังคาเรื่องทุกอย่างก็น่าจะจบ และตั้งแต่นั้นมาตุ๊กตาโรเบิร์ตก็ถูกเก็บเอาไว้ที่นั่น

จนเวลาผ่านไปอีกหลายปีโรเบิร์ต ยูจีน อ็อตโตได้เติบโตขึ้น เขาย้ายออกมาจากบ้านหลังนี้เพื่อใช้ชีวิตของตัวเองอยู่นาน ตอนนี้เขาทำงานเป็นศิลปินและมีภรรยาเหมือนคนปกติทั่วไป

"ยูจีน อ็อตโต" เจ้าของตุ๊กตาโรเบิร์ตและภาพวาดของเขา

แต่แล้วที่บ้านเก่าของเขาก็เกิดเรื่องใหญ่ขึ้น พ่อของเขาได้เสียชีวิตไปและนั่นจึงทำให้ยูจีนอยากจะกลับมาอยู่ที่บ้านหลังเดิมอีกครั้ง เพราะเขามองว่าบ้านเก่าหลังนี้เหมาะสมที่จะใช้ทำงานศิลปะของเขาเป็นอย่างมาก ซึ่งภรรยาของเขาเองก็ไม่ขัดข้อง และทั้งสองจึงย้ายครอบครัวกลับมาอยู่บ้านนี้ในเวลาต่อมา

บ้านของโรเบิร์ต หรืออาร์ติสท์เฮาส์
(ภาพจาก: Thehotelguru)

จนกระทั่งวันหนึ่งยูจีนได้ขึ้นไปบนห้องใต้หลังคาเพื่อทำความสะอาด แล้วเขาก็ได้พบกับเพื่อนเก่าอีกครั้ง ตุ๊กตาโรเบิร์ตที่ถูกเก็บไว้ในกล่องเก่า ๆ ใบนั้น เขาค่อย ๆ นำมันออกมาปัดฝุ่น หาเสื้อผ้าสมัยเด็กของตัวเองมาเปลี่ยนให้ ยูจีนกลับมาเป็นคนติดตุ๊กตาอีกครั้ง ซึ่งภรรยาของเขาก็ไม่ค่อยจะชอบใจเท่าไหร่นัก

ยูจีนพาเจ้าตุ๊กตาโรเบิร์ตติดตัวไปยังทุกหนทุกแห่งเหมือนเมื่อครั้งก่อน จับมันไปนั่งบนเก้าอี้เล็ก ๆ ตัวเดิม แอบนั่งคุยกับมันในช่วงที่ภรรยาของเขานอนหลับอยู่ ห้องนั่งเล่นตอนนี้ก็กลายมาเป็นอาณาจักรของเจ้าโรเบิร์ตไปเสียแล้ว ภรรยาของเขารู้สึกไม่ดีและนำตุ๊กตาโรเบิร์ตกลับไปเก็บไว้ที่ห้องใต้หลังคาตามเดิม

และจากนั้นเป็นต้นมาชีวิตคู่ของทั้งสองก็ค่อย ๆ แย่ลง ภรรยาของเขากลายเป็นบ้าและเสียชีวิตไปโดยไม่ทราบสาเหตุ จนเวลาผ่านไปไม่นานโรเบิร์ต ยูจีน อ็อตโตก็เสียชีวิตตามไป

ต่อมาก็มีเสียงร่ำลือเกี่ยวกับเจ้าตุ๊กตาอาถรรพ์ตัวนี้ เพราะหลังจากเพื่อนเก่าตายจาก บ้านหลังนี้ก็ถูกขายต่อให้กับครอบครัวอื่น ๆ หลายคนเล่าว่าพวกเขาเคยได้ยินเสียงปีศาจกำลังหัวเราะออกมาจากห้องนั่งเล่น ทั้ง ๆ ที่ในเวลานั้นไม่มีใครอยู่ที่นั่น บางครอบครัวที่ย้ายเข้ามาก็จะพบเจ้าตุ๊กตาโรเบิร์ตถูกเก็บไว้ในห้องใต้หลังคา แต่ในบางคืนพวกเขากลับพบว่ามันถูกวางอยู่นอกบริเวณบ้านโดยไม่มีใครรู้เรื่อง

เจ้าของบ้านคนใหม่บางคนก็พบว่า อยู่ดี ๆ มันมาปรากฏอยู่ที่เท้าแถมในมือยังถือมีดทำครัวเอาไว้ มีอยู่รายหนึ่งเล่าว่าตอนกลางดึกเขาเคยได้ยินเสียงคนหัวเราะคิกคักอยู่ในห้องนั่งเล่น แต่พอเปิดประตูเข้าไปก็ไม่พบอะไร แล้วทันใดนั้นเขาก็ถูกแท่งเหล็กตีเข้าที่หลังจนทรุด และได้ยินเสียงใครบางคนพูดกับเขาว่า

“แกเป็นใคร ? มาอยู่ที่นี่ทำไม ? มีอะไรกับฉันรึเปล่า ?”

และบางครอบครัวที่นำเจ้าโรเบิร์ตมาวางไว้เป็นเครื่องประดับบ้าน ก็รู้สึกได้ว่ามีใครบางคนกำลังนั่งฟังพวกเขาคุยกันอยู่เสมอ ซึ่งต่อมาก็มีสมาชิกบางคนดูออกว่า เจ้าโรเบิร์ตมันกำลังจับตามองพวกเขาอยู่จริง ๆ

และประสบการณ์สยองขวัญเหล่านี้ ต่างก็ทำให้ทุกครอบครัวหมดความอดทน ย้ายหนีออกจากบ้านหลังนี้ไปทันทีที่มีเรื่องทุกราย

ต่อมาตุ๊กตาโรเบิร์ตก็ได้บ้านใหม่ เพราะหลังจากที่เมอร์เธอร์ รอยเตอร์ ซึ่งผู้ที่ย้ายเข้ามาอยู่ใหม่ เธอเข้ากันกับโรเบิร์ตได้เป็นอย่างดี จน 6 ปีต่อมา เธอได้ตัดสินใจย้ายออกจากบ้านหลังนี้เพื่อไปอยู่ที่บ้านใหม่ในแถบถนนวอนฟิสเตอร์ เธอก็ได้นำโรเบิร์ตติดตัวไปด้วย ต่อมาในปี ค.ศ. 1944 เมอร์เธอร์ที่อายุมากแล้วก็ตัดสินใจบริจาคเจ้าโรเบิร์ตให้กับทางพิพิธภัณฑ์ฟอร์ทอีสต์มาร์เทลโล่ที่อยู่ในเมืองคีย์เวสต์ให้เป็นผู้ดูแลต่อ โดยวันที่นำมันไปมอบให้นั้นเธอบอกว่า

“โรเบิร์ตมักจะชอบเดินเล่นไปรอบ ๆ บ้านอยู่เสมอ”

และต่อมาอีกไม่กี่เดือนเมอร์เธอร์ก็เสียชีวิตไปด้วยโรคชรา

ส่วนพิพิธภัณฑ์ฟอร์ทอีสต์มาร์เทลโลนั้น ได้นำตุ๊กตาโรเบิร์ตมาจัดวางไว้ในท่านั่งบนเก้าอี้โยก อยู่ในตู้กระจกตั้งแสดงไว้ให้นักท่องเที่ยวได้แวะมาชม แต่ถึงแม้มันจะได้ที่อยู่ใหม่แต่เจ้าตุ๊กตาตัวนี้ก็ยังดูน่ากลัวเหมือนเดิม เพราะมีนักท่องเที่ยวและคนงานในที่แห่งนี้ เล่ากันว่าพวกเขาเคยเห็นมันขยับตัวได้ และก็เคยมีคนเห็นว่ามันทำหน้าบึ้ง ทั้งที่จริง ๆ แล้วมันเป็นตุ๊กตาหน้ายิ้ม

(ภาพจาก:  Robert.thedoll.5/Facebook)

พนักงานคนหนึ่งได้เข้ามาทำความสะอาดเจ้าโรเบิร์ตก็ต้องประสบกับเหตุการณ์สยองขวัญ เพราะในขณะที่กำลังจะทำความสะอาดในช่วงที่พิพิธภัณฑ์ปิดทำการ อยู่ดี ๆ ไฟทุกดวงก็ดับมืดลงไปพักหนึ่ง จนเมื่อไฟกลับมาติดอีกครั้งเขาก็พบว่าเจ้าตุ๊กตาโรเบิร์ตหายตัวไป แต่พอถึงรุ่งเช้ามันก็กลับมาอยู่ในตู้กระจกตามเดิม โดยที่เท้าของมันมีร่องรอยคราบสกปรกเลอะติดอยู่ราวกับว่ามันแอบเดินออกไปที่ไหนมาสักแห่ง

บางคนเล่าว่าตุ๊กตาโรเบิร์ตมีคำสาป ถ้าคุณอยากจะถ่ายภาพของมันคุณต้องขออนุญาตมันอย่างสุภาพก่อน จากนั้นคุณก็ต้องรอดูว่ามันจะผงกหัวอนุญาตหรือไม่ ซึ่งถ้าคุณไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำนี้ คำสาปจะเข้าครอบงำคุณรวมไปถึงทุก ๆ คนที่อยู่ในพิพิธภัณฑ์ทันที ดังนั้นถ้าไม่อยากจะเจอคำสาป คุณก็ไม่ควรจะลองดีกับเรื่องนี้เป็นอันขาด !!!

ในปัจจุบันตุ๊กตาโรเบิร์ตยังคงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ฟอร์ทอีสต์มาเทลโลแห่งนี้ มันยังคงสวมชุดกะลาสีตัวเดิม มีตุ๊กตาสิงโตวางอยู่บนตัก และยังคงมีอาถรรพ์เหมือนกับที่เคยมีตลอดมา

--จบ--

โรเบิร์ตเดอะดอลล์ หรือ ตุ๊กตาโรเบิร์ต เป็นเรื่องราวสยองขวัญที่พูดถึงตุ๊กตาอาถรรพ์ที่หญิงรับใช้ชาวไฮติได้มอบมันให้เป็นของขวัญแก่โรเบิร์ต ยูจีน อ็อตโต ลูกชายของอดีตเจ้านายของเธอในวันก่อนที่เธอจะจากไป เพราะถูกจับได้ว่าแอบทำพิธีไสยเวทย์มนต์ดำที่สวนหลังบ้าน และตั้งแต่วันนั้นมาจนถึงปัจจุบันเจ้าตุ๊กตาตัวนี้ก็ยังคงมีอาถรรพ์ ทั้ง ๆ ที่มันถูกเก็บรักษาอยู่ในตู้กระจกของพิพิธภัณฑ์แล้วก็ตาม

สิ่งที่น่ากลัวกว่านี้ก็คือ พอเราไปสืบดูว่าตุ๊กตาตัวนี้มันมีจริงหรือไม่ ? เราก็พบว่าเจ้าตุ๊กตาโรเบิร์ตตัวนี้มันมีอยู่บนโลกใบนี้จริง ๆ และเรื่องราวของมันก็เป็นเรื่องที่ถูกเล่ากันในฟลอริด้าจริง ๆ

โดยรายละเอียดเพิ่มเติมนั้นก็คือโรเบิร์ต ยูจีน อ็อตโต้ ได้ตุ๊กตาตัวนี้มาในช่วงปี ค.ศ. 1906 จนหลังจากที่เขาเสียชีวิตไปในปี ค.ศ. 1974 ตุ๊กตาตัวนี้ก็ได้ถูกเมอร์เธอร์ รอยเตอร์ เจ้าของคนสุดท้ายนำไปบริจาคให้พิพิธภัณฑ์ฟอร์ทอีสต์มาร์เทลโลก่อนที่เธอจะเสียชีวิตไป และมันก็อยู่ที่นั่นมาจนถึงทุกวันนี้

พิพิธภัณฑ์ฟอร์ทอีสต์มาร์เทล
(ภาพจาก: Galenbeck)

นอกจากเรื่องราวที่ถูกเล่าสืบต่อกันมานั้นก็ยังมีเรื่องราวอาถรรพ์ที่นักท่องเที่ยวได้พบ ซึ่งก็จะมีตั้งแต่เหตุการณ์อย่างเช่น ถ่ายรูปแล้วถ่ายไม่ติด บางคนก็บอกว่าตอนถ่ายโรเบิร์ตทำท่านึง แต่ในรูปกลับออกมาเป็นอีกท่านึง บางคนก็บอกว่าเคยเห็นมันหลับตาได้ บางคนก็เห็นมันทำตาดุเหมือนปีศาจ บางคนก็บอกว่าถ่ายภาพออกมาแล้วเหมือนกับมันขยับหัวจนภาพเบลอ บางคนก็บอกว่าภาพที่ถ่ายได้จะเห็นเท้าของมันเบลอเหมือนขยับอยู่


เรียกได้ว่าอาถรรพ์ที่ถูกเล่าขานกันมาเหล่านี้ มันทำให้ตุ๊กตาโรเบิร์ตกลายเป็นตำนานตุ๊กตาผีที่มีอยู่บนโลกจริง ๆ กันเลยทีเดียว

แต่พอมิติที่ 6 ขุดหาข้อมูลไปลึก ๆ เราก็พบว่าแท้ที่จริงแล้วทางพิพิธภัณฑ์อีสต์มาร์เทลโล่แห่งนี้ ได้รับทราบช้อมูลสำคัญมาว่า จริง ๆ แล้วเจ้าโรเบิร์ตมันเป็นผลิตภัณฑ์จากบริษัทสเตฟฟ์ ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตตุ๊กตาแห่งแรกที่สร้างตุ๊กตาหมีเท็ดดี้แบร์ตัวที่ถูกมอบให้เป็นของขวัญแก่ประธานาธิบดีรูสเวลล์ของประเทศสหรัฐอเมริกา และเจ้าโรเบิร์ตเองก็เป็นผลิตภัณฑ์ตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาแต่ไม่ได้ถูกวางจำหน่ายในฐานะของเล่น ซึ่งเรื่องนี้ทางฝ่ายประวัติศาสตร์ของบริษัทสเตฟฟ์ได้เคยบอกกับทางพิพิธภัณฑ์เอาไว้ว่า

เดิมทีมันเป็นตุ๊กตาสวมชุดตัวตลกถูกผลิตขึ้นมาเพื่อใช้ประดับบ้าน เช่น วางที่หน้าต่าง ส่วนในตำนานมันเป็นเพืยงเรื่องที่ถูกแต่งขึ้นมาจากไหนก็ไม่ทราบ เพราะตามประวัติจริง ๆ แล้วเจ้าตุ๊กตาตัวนี้มันอยู่กับโรเบิร์ตมาตั้งแต่ตอนที่เขาเกิด โดยพ่อแม่ของเขาซื้อไว้ให้เป็นเพื่อนกับยูจีน ส่วนคนรับใช้ไม่เคยนำมันมาให้เลย

ตัวอย่างตุ๊กตาประดับบ้าน

และสาเหตุที่ทางพิพิธภัณฑ์นำมาตั้งแสดงไว้ที่นี่ก็เป็นเพราะว่ามันน่ารักดี ส่วนเสื้อผ้าที่นำมาสวมใส่นั้นทางคอนเวอร์ติโต ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่หญิงของพิพิธภัณฑ์ผู้ทำหน้าที่ดูแลตุ๊กตาโรเบิร์ตก็บอกว่า มันคือเสื้อผ้าของโรเบิร์ต ยูจีน อ็อตโต้ ที่เขาเคยสวมใส่ในวัยเด็กจริง ๆ

และสิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งก็คือ พิพิธภัณฑ์ฟอร์ทอีสต์มาเทลโล่แห่งนี้ มันถูกออกแบบโดยโรเบิร์ต ยูจีน อ็อตโตเช่นกัน และสาเหตุที่เมอร์เธอร์ รอยเตอร์ นำโรเบิร์ตมาบริจาคให้นั้น มันก็เป็นเพียงแค่เรื่องบังเอิญ

แต่ทีนี้พอตำนานของตุ๊กตาโรเบิร์ตถูกเล่าขานออกไป มันก็โด่งดังจนมีรายการทีวีมาถ่ายทำ โดยยกเอาภาพถ่ายของนักท่องเที่ยวบางภาพที่อ้างว่าถ่ายติดวิญญาณของตุ๊กตาตัวนี้มาให้ดูและมันก็ได้ทำให้เกิดปรากฎการณ์มีนักท่องเที่ยวแนวล่าท้าผีจำนวนมากมายแวะมาถ่ายภาพของมันกันแทบทุกวัน

ออกรายการ Deadly Possession

โดยทางเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์ยังเล่าอีกว่า ทุกวันนี้โรเบิร์ตจะได้รับจดหมายจากผู้คนวันละไม่ต่ำกว่า 3 ฉบับ ซึ่งเนื้อหาในจดหมายแต่ละฉบับนั้นไม่ได้เขียนมาเพื่อชื่นชมมันเลยแม้แต่ฉบับเดียว โดยทุกฉบับนั้นจะเป็นจดหมายที่เขียนมาเพื่อขอโทษ เนื่องจากนักท่องเที่ยวเหล่านั้นได้ไปลบหลู่มันเอาไว้ไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง บางฉบับก็เขียนมาขอคำปรึกษาไม่ก็เขียนมาสารภาพผิด จนปัจจุบันมีจดหมายส่งมานับพันฉบับโดยทางพิพิธภัณฑ์ก็ได้เก็บเอาไว้ทั้งหมด

รวมไปถึงถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์เมื่อปี ค.ศ. 2015 ในชื่อเรื่องโรเบิร์ตแอนด์เดอะเคิร์สต์ออฟโรเบิร์ต จนเกิดกระแสมีเรื่องที่สองตามมาคือเดอะลีเจนด์ออฟโรเบิร์ตเดอะดอลล์ ที่กำลังเตรียมการถ่ายทำกันอยู่ และก็ยังมีภาพยนตร์ที่เล่าถึงที่มาของมันในชื่อ เดอะทอยเมกเกอร์ ออกมาอีกหนึ่งเรื่อง ซึ่งทั้งหมดถูกสร้างขึ้นโดยฝีมือแอนดรูว โจนส์ ผู้กำกับคนเดียวกันทั้งสิ้น


ภาพยนตร์เรื่อง The Curse of Robert และ Rober
(ภาพจาก: Courtesy of bttm.co.uk)

นอกจากจดหมายแปลก ๆ จากนักท่องเที่ยวแล้ว ก็เป็นที่รู้กันว่าโรเบิร์ตนั้นชอบขนมหวาน นักท่องเที่ยวจึงต่างนำลูกอมและขนมชนิดต่าง ๆ มาวางทิ้งไว้ตรงจุดที่ตั้งแสดงเป็นประจำ เคยมีนักท่องเที่ยวแอบวางลังใส่เป็บเปอร์มินท์ไว้ให้ถึง 8 กล่อง บางทีก็มีการ์ดลึกลับที่ไม่ได้ระบุชื่อคนส่งวางทิ้งเอาไว้ บางคนไม่รู้จะซื้ออะไรมาให้ก็วางเงินทิ้งไว้ให้ดื้อ ๆ ก็มี

"คอรี่ คอนเวอร์ติโต้" เจ้าหน้าที่ดูแลตุ๊กตาโรเบิร์ต
(ภาพจาก: Fla-keys)


ซึ่งทางเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์เองก็ยังคงยืนยันว่า ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวแนวสยองขวัญ เพียงแต่ทุก ๆ วันเธอก็มีหน้าที่ดูแลเจ้าโรเบิร์ตให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ตลอดเวลา เพราะอากาศในฟลอริด้านั้นค่อนข้างจะมีผลทำให้สภาพของมันทรุดโทรมลงทุกวัน ซึ่งเจ้าหน้าที่คอนเวอร์ติโต้เองนอกจากจะต้องดูแลมันแล้ว ก็ยังทำหน้าที่เป็นตัวแทนของเจ้าตุ๊กตาโรเบิร์ต คอยตอบคำถามและตอบจดหมายในบางฉบับด้วย

เมื่อเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2015 ที่ผ่านมา หน้าของเจ้าโรเบิร์ตก็ถูกนำไปตัดต่อกับภาพของคิม คาดาเชียน ที่กำลังยืนถือขวดแชมเปญโดยมีแก้ววางอยู่ที่สะโพกหลัง ซึ่งภาพนี้ก็มีผู้แชร์และกดไลค์กันถล่มทลาย

เพียงแต่ในบ้านเรานั้นไม่ทราบว่าเจ้าโรเบิร์ตนั้นดังมากขนาดมีแฟนเพจบน เฟซบุ๊ก กันแล้ว ซึ่งไปดูที่บางโพสต์นั้น เราจะพบความแห็นเป็นมุกตลกขำ ๆ จากแฟนคลับ ที่ดูคล้าย ๆ กับที่เราพบในประเทศไทยอย่างเช่น "ขออโหสิกรรมที่เข้ามาดู" กันด้วย

"ขออโหสิกรรมที่เข้ามาดู"

และอีกสิ่งที่เรายังไม่ทราบก็คือ เจ้าตุ๊กตาโรเบิร์ตตอนนี้ ได้เปิดเว็บไซต์อย่างเป็นทางการในชื่อ robertthedoll.org ที่ภายในเว็บไซต์จะมีภาพและเรื่องราวของมันโดยละเอียด รวมไปถึงสินค้าที่ระลึกต่าง ๆ โดยผู้ที่เปิดเว็บไซต์แห่งนี้ขึ้นมาก็คือทางพิพิธภัณฑ์ฟอร์ทอีสต์มาร์เทลโล่นั่นเอง

ทุกวันนี้ทางเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์ก็ได้ใช้ตุ๊กตาโรเบิร์ตตัวนี้เป็นฑูตแห่งกำลังใจ คอยส่งของให้กับเด็ก ๆ ที่เขียนมาเล่าถึงชีวิตที่ต้องถูกเพื่อนรังแก หรือเขียนส่งมาอธิษฐานขอให้โรเบิร์ตเป็นเด็กดี ซึ่งก็เรียกได้ว่าตอนนี้โรเบิร์ตได้เป็นอะไรที่มากกว่าตุ๊กตาอาถรรพ์ไปเสียแล้ว

ผู้ดูแลพาโรเบิร์ตไปเล่นเกม 🎮

โรเบิร์ตได้กลายเป็นทูตให้กำลังใจเด็ก ๆ ไปแล้ว

พอมีผู้ถามคอนเวอร์ติโตว่าสำหรับเธอแล้วเจ้าโรเบิร์ตมันน่ากลัวหรือเปล่า ? เธอก็ตอบว่า "เธอเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันเพราะเธอไม่เคยมีประสบการณ์หลอน ไม่เคยรู้สึกไม่ดี และมองว่าสิ่งที่เธอทำอยู่ทุกวันนี้ก็คืองาน ไม่ได้มีอะไรพิเศษไปกว่านี้ แต่บางทีก็เคยคิดเหมือนกันว่าเจ้าโรเบิร์ตมันอาจจะแค่ยอมให้ทำงานที่นี่ก็เป็นได้"

ซึ่งทั้งหมดนี้มันก็ทำให้มิติที่ 6 มองว่า เรื่องราวน่ากลัวบางอย่างมันอาจจะเป็นเพียงแค่เรื่องเล่า ซึ่งถึงมันจะมีเค้าโครงมาจากเหตุการณ์จริง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเรื่องเล่ามันจะเป็นเรื่องจริงไปทั้งหมด

แต่บางครั้งเราก็ควรจะเหลือที่ว่างเอาไว้ให้สำหรับตำนานอาถรรพ์กันบ้าง เพราะอย่างน้อยมันก็ทำให้เศรษฐกิจในชุมชนที่เกิดเรื่องเล่าสามารถขับเคลื่อนต่อไปอย่างสะดวก อย่างที่รู้ ๆ กันว่าความจริงนั้น..มันช่างไม่มีเสน่ห์... เอาเสียเลย !!!


อย่าลืมติดตามชมรายการมิติที่ 6 ศุกร์สยองขวัญ กับเรื่องราวเบา ๆ พร้อมกับที่มาของมันกันได้ทุกวันศุกร์สะดวก แล้วอย่าลืมกดสับสไครป์ กดไลก์ กดแชร์ หรือทิ้งคอมเมนต์กันไว้ด้วยนะครับ ยังมีเรื่องราวต่าง ๆ อีกมากมายรอคุณอยู่ สำหรับวันนี้... สวัสดี

เรียบเรียงและบรรยายโดย นิวัฒน์ อ่ำแสง
ขอบคุณที่มา
Creepypasta Wiki - Robert the Doll
Scary for Kids - Robert the Doll
Wikipedia - Robert (doll)
facebook - Robert The Doll

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ประกาศ

เพื่อเป็นกำลังใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กับเรา ขอความร่วมมือจากผู้ที่นำเรื่องราวจากมิติที่ 6 ไปใช้ในที่ของท่าน กรุณาลงเครดิตกลับมาที่เราจะเป็นพระคุณอย่างสูงครับ