14 เมษายน 2560

มิติที่ 6 ศุกร์สยองขวัญ ไขปริศนาทำไมนางสงกรานต์ปี พ.ศ. 2560 ถึงนอนบนหลังช้าง !?



ปีนี้น้ำมากเสี่ยงจะท่วมใหญ่ บ้านเมืองจะเกิดยุทธสงครามฆ่าฟันกัน คำทำนายบ้านเมืองชุดนี้เกิดขึ้นมาจากการทำนายทายทักของสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ พูดถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นหลังจากวันสงกรานต์ปี พ.ศ. 2560 นี้ โดยกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรีท่านหนึ่งได้ระบุชื่อนางสงกรานต์ประจำปีว่าปีนี้คือวาระของนาง ซึ่งถือเป็นเทวีฝ่ายร้าย !!!

กดเพื่อดูคลิปที่นี่

มิติที่ 6 ศุกร์สยองขวัญ กับเรื่องราวเบา ๆ ในวันศุกร์สะดวกสัปดาห์นี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับเธอนางสงกรานต์ฝ่ายร้ายผู้ห้าวหาญ ที่ในปีนี้แม้มันจะถึงเวลาที่เธอจะต้องเข้ามารับหน้าที่สำคัญ แต่เธอกลับเดินทางมาด้วยอิริยาบถที่ผิดปกติ ที่เป็นเช่นนี้... มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ !?


โดยเรื่องราวนั้นมีอยู่ว่า


ตามจารึกที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม(วัดโพธิ์) มีตำนานเรื่องเล่าพูดถึงเศรษฐีผู้ร่ำรวยแต่กลับไร้ทายาทคนหนึ่ง ได้ไปมีเรื่องทะเลาะกับคนขี้เมาที่ปลูกบ้านอยู่ใกล้ ๆ กัน เถียงไปเถียงมาเศรษฐีก็ถูกขี้เมาจี้ใจดำเรื่องไม่มีลูก แถมยังถูกเยาะเย้ยว่าสู้ตนไม่ได้เพราะขี้เมาแต่มีลูกตั้ง 2 คน นั่นจึงทำให้เศรษฐีถึงกับสะอึก เดินหลบหน้าเข้าบ้านไปนั่งน้อยใจอยู่เพียงคนเดียว

ด้วยเหตุนี้เศรษฐีจึงทำพิธีบวงสรวงต่อดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ทุกวัน จนเวลาผ่านไปสามปีเศรษฐีก็ยังไม่ได้ลูกกับเขาสักที จนถึงช่วงเข้าสู่ราศีเมษเศรษฐีจึงตัดสินใจไปอธิษฐานขอลูกกับรุกขเทวาที่สิงสถิตย์อยู่ในต้นไทรริมน้ำ


ซึ่งรุกขเทวาได้ฟังคำอธิษฐานของเศรษฐีแล้วก็เห็นใจ เหาะขึ้นสวรรค์นำเรื่องนี้ไปเล่าให้พระอินทร์ฟัง และทั้งหมดนั้นจึงทำให้พระอินทร์เกิดเมตตาประทานลูกชายให้เศรษฐีได้สมปรารถนา ซึ่งต่อมาเศรษฐีก็ได้ลูกชายและตั้งชื่อเด็กคนนี้ว่า ธรรมบาลกุมาร และปลูกคฤหาสถ์หลังใหญ่ให้เป็นของรับขวัญแก่บุตรของตน

จนเวลาผ่านไปธรรมบาลกุมารก็อายุได้เจ็ดปี เติบโตมาเป็นเด็กฉลาดสามารถรู้ภาษานก จบวิชาไตรเภทจนได้รับการยกย่องให้เป็นอาจารย์ คอยบอกมงคลต่าง ๆ ให้กับผู้คนทั่วไป จนชื่อเสียงเลื่องลือไปไกลขึ้นไปถึงพรหมโลกชั้นที่สาม และมันก็ได้ทำให้ท้าวกบิลพรหมผู้มีหน้าที่ดูแลความเป็นไปของมนุษย์และสัตว์โลก ที่มีพระธิดาเจ็ดพระองค์คอยช่วยเหลือในการทำงานตลอดมา คิดนึกสนุกเกิดอยากจะประลองปัญญากับธรรมบาลกุมาร ถึงขั้นเสด็จลงมาหาเพื่อทายปัญหากับเด็กน้อยผู้นี้

โดยพระองค์ตั้งคำถามกับธรรมบาลกุมารว่า ตอนเช้าศิริอยู่ที่ใด ? ตอนเที่ยงอยู่ที่ใด ? และตอนค่ำศิริจะไปอยู่ที่ใด ? โดยเดิมพันกับธรรมบาลกุมารว่า ถ้าตอบคำถามนี้ได้ท้าวกบิลพรหมจะบั่นเศียรตัวเองส่งมาให้เป็นเครื่องบูชา แต่ถ้าธรรมบาลกุมารตอบไม่ได้ล่ะก็ เด็กน้อยจะต้องมอบศีรษะของตนให้เป็นเครื่องสังเวยแทน ซึ่งธรรมบาลกุมารเองก็ยังคิดไม่ออกว่าจะตอบอะไรในตอนนั้น จึงได้ขอเวลา 7 วัน เพื่อจะได้ค้นหาคำตอบที่ถูกต้องมาให้

ธรรมบาลกุมารพยายามคิดหาคำตอบอยู่นาน จนเวลาผ่านเข้าวันที่ 6 ก็ยังคิดไม่ออก นั่นจึงทำให้เขาท้อใจเดินลงไปนอนเล่นที่ใต้ต้นตาล พอดีบนต้นไม้นั้นมีนกอินทรี 2 ตัวผัวเมียคุยกันอยู่ ธรรมบาลกุมารนั้นรู้ภาษานกเป็นอย่างดี จึงแอบนอนฟังพวกมันคุยกัน
นางนกอินทรีถามสามีว่า... "พรุ่งนี้จะกินอะไรกันดี ?"
สามีตอบว่า... "รอกินศพเจ้าธรรมบาลกุมารก็ดีนะ พรุ่งนี้มันจะต้องตายเพราะตอบคำถามของท้าวกบิลพรหมไม่ได้แน่ ๆ"
นางนกอินทรีจึงถามต่อว่า... "แล้วคำถามของท้าวกบิลพรหมคืออะไร ?
 สามีก็เล่าให้ฟังและเฉลยว่า...
 "ตอนเช้าสิริจะอยู่ที่หน้า เพราะมนุษย์ตื่นขึ้นมาจะต้องล้างหน้าทุกเช้า
ตอนเที่ยงสิริจะอยู่ที่อก เพราะมนุษย์จะใช้น้ำหอมประพรมร่างกายบริเวณอก
ส่วนตอนค่ำสิริจะอยู่ที่เท้า เพราะก่อนเข้านอนมนุษย์จะต้องล้างเท้านั่นเอง"

ธรรมบาลกุมารได้ยินคำตอบจากนกอินทรีก็จดจำจนขึ้นใจ พอถึงวันสุดท้ายท้าวกบิลพรหมก็มาตามสัญญา ซึ่งธรรมบาลกุมารก็ได้นำคำที่ได้ยินจากนกมาตอบ จนท้าวกบิลพรหมถึงกับอึ้งเพราะคำตอบที่ตอบมานั้นเป็นคำตอบที่ถูกต้อง นั่นจึงทำให้ท้าวกบิลพรหมต้องเรียกพระธิดาทั้งเจ็ดให้มาประชุมเพื่อจะบอกว่าตอนนี้ท่านได้แพ้เดิมพันกับธรรมบาลกุมารแล้ว

แต่การตัดเศียรบูชาในครั้งนี้จะสร้างปัญหาใหญ่ขึ้นมาอย่างมาก เพราะถ้าตั้งศีรษะของท่านไว้บนพื้นดินก็จะเกิดไฟจะลุกไหม้ไปทั่วปฐพี ถ้าโยนขึ้นฟ้าก็จะส่งผลทำให้สภาพอากาศแห้งแล้ง ครั้นจะโยนลงทะเลน้ำก็จะแห้งเหือดหายในทันที

นั่นจึงทำให้ท้าวกบิลพรหมสั่งธิดาทั้งเจ็ดว่า จงนำพานมารองรับเศียรของท่าน แล้วเวียนให้ธิดาแต่ละองค์ผลัดเปลี่ยนกันนำพานใส่เศียรนี้ แห่เวียนขวารอบเขาพระสุเมรุเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง จากนั้นก็ให้นำไปเก็บรักษาไว้ในถ้ำคันธุลีที่อยู่ในเขาไกรลาศ

และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทุก ๆ ปีเหล่าธิดาของท้าวกบิลพรหมทั้งเจ็ดจะมาผลัดเปลี่ยนกันทำหน้าที่นี้ในวันมหาสงกรานต์ และทั้งหมดนี้ก็คือประวัติที่มาของวันสงกรานต์และนางสงกรานต์อย่างย่อ ๆ


โดยในปี พ.ศ. 2560 นี้ วันมหาสงกรานต์จะตรงกับวันที่ 14 เมษายน และธิดาผู้ทำหน้าที่อัญเชิญเศียรเท้ากบิลพรหมไปวนรอบเขาพระสุเมรุนั้นก็คือ พระนางกิริณีเทวี ซึ่งบางแห่งก็เรียกว่า พระนางกาฬกิณี เทวี (อ่านว่า กาฬ-กิ-ณี-เท-วี)


พระนางกาฬกิณีเทวีองค์นี้ จะมีผลกับบ้านเมืองของเราอย่างไรบ้าง ?

ตามรายละเอียดที่ทราบมา พระนางกาฬกิณีเทวีองค์นี้เป็นพระธิดาองค์ที่ 5 ประจำวันพฤหัส มีดอกไม้ประจำพระองค์เป็นดอกมณฑา สวมเสื้อผ้าประดับด้วยมรกต อาหารโปรดเป็นถั่วงา มือขวาถือขอช้าง มือซ้ายถือปืนสั้น ซึ่งบางแห่งก็บอกว่าเป็นปืนยาว มีช้างเป็นพาหนะคู่กาย

นางสงกรานต์องค์นี้มีผู้วิเคราะห์ว่าเป็นหนึ่งในนางสงกรานต์ฝ่ายร้ายจากฝ่ายร้ายทั้งหมดสองพระองค์ แต่ถึงนางจะเป็นฝ่ายร้ายนางก็มีศีลธรรมไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตกินแต่มังสวิรัติ ดังนั้นคำว่าร้ายที่นางได้มาก็คือการมอบความเลวร้ายให้กับพวกมารและคนชั่วแต่จะทำดีกับคนที่มีศีลธรรม เรียกได้ว่าพระนางก็เหมือนกับหน่วยปราบปรามที่คอยกำจัดคนพาลอภิบาลคนดีนั่นเอง

และเวรผลัดเปลี่ยนของพระนางกาฬกิณีเทวีก็จะไม่ค่อยได้มาทำหน้าที่กันบ่อย ๆ บางครั้งก็ 5 ปี บางครั้งก็ 6 ปี บางทีก็ล่วงเลยมาถึง 7 ปี ถึงจะได้มาทำหน้าที่กันสักครั้ง ซึ่งถ้าจะดูจากเหตุการณ์บ้านเมืองในประเทศไทยช่วงที่พระนางมาทำหน้าที่ ก็มักจะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงถึงขั้นแผ่นดินลุกเป็นไฟอยู่เสมอ ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นเพียงการนำความเชื่อมาผูกเข้ากับการเมือง เพราะมันอาจจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญก็ได้เช่นกัน

เพราะในสมัยก่อนในช่วงเวลาที่พระนางกาฬกิณีเทวีมาเข้าเวรนั้น ไม่ได้มีการระบุว่าจะเกิดเหตุร้ายแรงเหมือนกับที่โหราจารย์ทำนายกันไว้ เนื่องจากคำทำนายปกตินั้นมักจะพูดถึงแต่ความอุดมสมบูรณ์ค้าขายคล่องตัว ไม่ตรงกับคำทำนายที่บอกว่าบ้านเมืองจะเกิดการฆ่าฟัน หรือเกิดน้ำท่วมใหญ่ แล้วทำไมปีนี้คำทำนายถึงได้ออกมาดูเลวร้าย ขนาดน้ำท่วมไฟไหม้ ราวกับบ้านเมืองจะเกิดเภทภัยถึงขั้นล้มตายกันเป็นเบือแบบนี้

ยิ่งอิริยาบถของพระนางกาฬกิณีเทวีในปีนี้ ก็ดูจะผิดปกติกว่าที่เคยเป็น เพราะทุกครั้งการมาของพระนาง ถ้าไม่ยืนบนหลังช้างก็จะนั่ง ซึ่งบางครั้งแม้จะนอนมาก็เพียงนอนเล่นไม่ถึงกับหลับตาเหมือนกับปีนี้

ซึ่งคำตอบของข้อสงสัยทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นคำทำนายหรืออิริยาบถที่ผิดแปลกกว่าทุกปีนั้น ทางหนังสือพิมพ์บ้านเมืองได้อธิบายให้เราได้ทราบกันว่า แท้ที่จริงแล้วในมหาสงกรานต์ปีนี้ ซึ่งตรงกับวันศุกร์ที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2560 นั้น

สาเหตุที่นอนหลับตาบนหลังช้างเพราะพระนางกาฬกิณีเทวีจะต้องเดินทางมาเข้าเวรทำหน้าที่อัญเชิญพระเศียรของท้าวกบิลพรหมในตอนดึก คือช่วงเวลาตีสองสี่สิบเก้านาทีสิบสองวินาที ซึ่งเป็นเวลาพักผ่อนนอนหลับของมนุษย์และเทพ พระนางกาฬกิณีเทวีก็คงอ่อนล้าจนง่วงหลับบ้างเป็นธรรมดา


ดังนั้นสิ่งนี้มันก็อาจจะเป็นที่มาของคำทำนายว่าน้ำจะท่วม ไฟจะลุกแผ่นดิน เพราะลองนางสงกรานต์สายบู๊นอนหลับอยู่แบบนั้น พวกเหล่ามารร้ายเห็นเข้าก็อาจจะฮึกเหิมแอบฉวยโอกาสในขณะที่พระนางกำลังพักผ่อน ทำให้บ้านเมืองต้องเดือดร้อนลุกเป็นไฟได้นั่นเอง

แต่ถึงแม้พระนางกาฬกิณีเทวีจะนอนหลับในปีนี้ก็ตาม เทพพาหะของพระองค์ก็ยังคงเป็นช้างทรง ซึ่งถือเป็นเครื่องช่วยค้ำชูต่อต้านสิ่งไม่ดีที่อาจจะเกิดขึ้นกันได้อยู่บ้าง นั่นจึงทำให้เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นอาจไม่เลวร้ายอย่างที่เคยเกิดขึ้นมากับบ้านเมืองของเราในอดีต ซึ่งก็ต้องเน้นกับท่านผู้ชมว่าทุกอย่างมันเป็นเพียงการทำนายเท่านั้น ดังนั้นเราจะขอข้ามเหตุการณ์บ้านเมืองที่เคยเกิดขึ้นกันไปเพื่อความอยู่รอดปลอดภัยของรายการเช่นกันนะครับ

การมาของพระนางกาฬกิณีเทวีในปีนี้ จึงถือเป็นโอกาสสำคัญที่จะใช้คำทำนายต่าง ๆ ในทางที่ถูกต้อง เพราะเหตุร้ายจะเกิดหรือไม่เกิด น้ำจะท่วมหรือไฟลุกท่วมแผ่นดินมันก็ขึ้นอยู่กับความคิดของคนใหญ่คนโตที่เราไม่สามารถจะทำนายทายใจของพวกเขาได้ ซึ่งสิ่งที่ทำได้จริง ๆ ก็มีเพียงสนุกกับสงกรานต์วันปีใหม่ไทย โดยไม่ก่อความเดือดร้อนรำคาญให้กับผู้คนรอบข้างจนเกินงามน่าจะดีที่สุดครับ

และมิติที่ 6 ขอถือโอกาสนี้ อธิษฐานขอให้ท่านผู้ชมพบกับความสุขกายสบายใจ ไร้โรคภัยเบียดเบียน ผ่านพ้นช่วงเวลาที่ไม่ดีเข้าสู่ชีวิตที่ดีกว่าตลอดปีตลอดไป อยากให้ชีวิตเป็นอย่างไรก็ขอให้สมหวังกันถ้วนหน้านะครับ

พบกับรายการมิติที่ 6 ศุกร์สยองขวัญ กับเรื่องราวเบา ๆ พร้อมกับที่มาของมันได้ทุกวันศุกร์สะดวก แล้วอย่าลืมกดสับสไครป์ กดไลก์ กดแชร์ หรือทิ้งคอมเมนต์กันไว้ด้วยนะครับ ยังมีเรื่องราวต่าง ๆ อีกมากมายรอคุณอยู่ สำหรับวันนี้... สวัสดี

เรียบเรียงโดย นิวัฒน์ อ่ำแสง
ขอบคุณที่มา: วิกิพีเดียหนังสือพิมพ์บ้านเมือง และ เวลาประเทศไทย
ภาพประกอบจาก: กระทรวงวัฒนธรรม

แท็ก: Kirinee Devi, กิริณีเทวี, กาฬกิณีเทวี, คำทำนาย, วันสงกรานต์, นางสงกรานต์, สงกรานต์, สงกรานต์ 2560, นางสงกรานต์ 2560, วันสงกรานต์ 2560, ประเพณี, ปีใหม่ไทย, ประเพณีสงกรานต์, ไสยาสน์หลับเนตร, ขี่ช้าง, 14 เม.ย. 2560, 2 นาฬิกา 49 นาที 12 วินาที

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ประกาศ

เพื่อเป็นกำลังใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กับเรา ขอความร่วมมือจากผู้ที่นำเรื่องราวจากมิติที่ 6 ไปใช้ในที่ของท่าน กรุณาลงเครดิตกลับมาที่เราจะเป็นพระคุณอย่างสูงครับ