ปีนี้น้ำมากเสี่ยงจะท่วมใหญ่ บ้านเมืองจะเกิดยุทธสงครามฆ่าฟันกัน คำทำนายบ้านเมืองชุดนี้เกิดขึ้นมาจากการทำนายทายทักของสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ พูดถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นหลังจากวันสงกรานต์ปี พ.ศ. 2560 นี้ โดยกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรีท่านหนึ่งได้ระบุชื่อนางสงกรานต์ประจำปีว่าปีนี้คือวาระของนาง ซึ่งถือเป็นเทวีฝ่ายร้าย !!!
กดเพื่อดูคลิปที่นี่ |
มิติที่ 6 ศุกร์สยองขวัญ กับเรื่องราวเบา ๆ ในวันศุกร์สะดวกสัปดาห์นี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับเธอนางสงกรานต์ฝ่ายร้ายผู้ห้าวหาญ ที่ในปีนี้แม้มันจะถึงเวลาที่เธอจะต้องเข้ามารับหน้าที่สำคัญ แต่เธอกลับเดินทางมาด้วยอิริยาบถที่ผิดปกติ ที่เป็นเช่นนี้... มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ !?
โดยเรื่องราวนั้นมีอยู่ว่า
ด้วยเหตุนี้เศรษฐีจึงทำพิธีบวงสรวงต่อดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ทุกวัน จนเวลาผ่านไปสามปีเศรษฐีก็ยังไม่ได้ลูกกับเขาสักที จนถึงช่วงเข้าสู่ราศีเมษเศรษฐีจึงตัดสินใจไปอธิษฐานขอลูกกับรุกขเทวาที่สิงสถิตย์อยู่ในต้นไทรริมน้ำ
จนเวลาผ่านไปธรรมบาลกุมารก็อายุได้เจ็ดปี เติบโตมาเป็นเด็กฉลาดสามารถรู้ภาษานก จบวิชาไตรเภทจนได้รับการยกย่องให้เป็นอาจารย์ คอยบอกมงคลต่าง ๆ ให้กับผู้คนทั่วไป จนชื่อเสียงเลื่องลือไปไกลขึ้นไปถึงพรหมโลกชั้นที่สาม และมันก็ได้ทำให้ท้าวกบิลพรหมผู้มีหน้าที่ดูแลความเป็นไปของมนุษย์และสัตว์โลก ที่มีพระธิดาเจ็ดพระองค์คอยช่วยเหลือในการทำงานตลอดมา คิดนึกสนุกเกิดอยากจะประลองปัญญากับธรรมบาลกุมาร ถึงขั้นเสด็จลงมาหาเพื่อทายปัญหากับเด็กน้อยผู้นี้
โดยพระองค์ตั้งคำถามกับธรรมบาลกุมารว่า ตอนเช้าศิริอยู่ที่ใด ? ตอนเที่ยงอยู่ที่ใด ? และตอนค่ำศิริจะไปอยู่ที่ใด ? โดยเดิมพันกับธรรมบาลกุมารว่า ถ้าตอบคำถามนี้ได้ท้าวกบิลพรหมจะบั่นเศียรตัวเองส่งมาให้เป็นเครื่องบูชา แต่ถ้าธรรมบาลกุมารตอบไม่ได้ล่ะก็ เด็กน้อยจะต้องมอบศีรษะของตนให้เป็นเครื่องสังเวยแทน ซึ่งธรรมบาลกุมารเองก็ยังคิดไม่ออกว่าจะตอบอะไรในตอนนั้น จึงได้ขอเวลา 7 วัน เพื่อจะได้ค้นหาคำตอบที่ถูกต้องมาให้
ธรรมบาลกุมารพยายามคิดหาคำตอบอยู่นาน จนเวลาผ่านเข้าวันที่ 6 ก็ยังคิดไม่ออก นั่นจึงทำให้เขาท้อใจเดินลงไปนอนเล่นที่ใต้ต้นตาล พอดีบนต้นไม้นั้นมีนกอินทรี 2 ตัวผัวเมียคุยกันอยู่ ธรรมบาลกุมารนั้นรู้ภาษานกเป็นอย่างดี จึงแอบนอนฟังพวกมันคุยกัน
นางนกอินทรีถามสามีว่า... "พรุ่งนี้จะกินอะไรกันดี ?"
สามีตอบว่า... "รอกินศพเจ้าธรรมบาลกุมารก็ดีนะ พรุ่งนี้มันจะต้องตายเพราะตอบคำถามของท้าวกบิลพรหมไม่ได้แน่ ๆ"
นางนกอินทรีจึงถามต่อว่า... "แล้วคำถามของท้าวกบิลพรหมคืออะไร ?
สามีก็เล่าให้ฟังและเฉลยว่า...
"ตอนเช้าสิริจะอยู่ที่หน้า เพราะมนุษย์ตื่นขึ้นมาจะต้องล้างหน้าทุกเช้า
ตอนเที่ยงสิริจะอยู่ที่อก เพราะมนุษย์จะใช้น้ำหอมประพรมร่างกายบริเวณอก
ส่วนตอนค่ำสิริจะอยู่ที่เท้า เพราะก่อนเข้านอนมนุษย์จะต้องล้างเท้านั่นเอง"
แต่การตัดเศียรบูชาในครั้งนี้จะสร้างปัญหาใหญ่ขึ้นมาอย่างมาก เพราะถ้าตั้งศีรษะของท่านไว้บนพื้นดินก็จะเกิดไฟจะลุกไหม้ไปทั่วปฐพี ถ้าโยนขึ้นฟ้าก็จะส่งผลทำให้สภาพอากาศแห้งแล้ง ครั้นจะโยนลงทะเลน้ำก็จะแห้งเหือดหายในทันที
นั่นจึงทำให้ท้าวกบิลพรหมสั่งธิดาทั้งเจ็ดว่า จงนำพานมารองรับเศียรของท่าน แล้วเวียนให้ธิดาแต่ละองค์ผลัดเปลี่ยนกันนำพานใส่เศียรนี้ แห่เวียนขวารอบเขาพระสุเมรุเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง จากนั้นก็ให้นำไปเก็บรักษาไว้ในถ้ำคันธุลีที่อยู่ในเขาไกรลาศ
และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทุก ๆ ปีเหล่าธิดาของท้าวกบิลพรหมทั้งเจ็ดจะมาผลัดเปลี่ยนกันทำหน้าที่นี้ในวันมหาสงกรานต์ และทั้งหมดนี้ก็คือประวัติที่มาของวันสงกรานต์และนางสงกรานต์อย่างย่อ ๆ
พระนางกาฬกิณีเทวีองค์นี้ จะมีผลกับบ้านเมืองของเราอย่างไรบ้าง ?
ตามรายละเอียดที่ทราบมา พระนางกาฬกิณีเทวีองค์นี้เป็นพระธิดาองค์ที่ 5 ประจำวันพฤหัส มีดอกไม้ประจำพระองค์เป็นดอกมณฑา สวมเสื้อผ้าประดับด้วยมรกต อาหารโปรดเป็นถั่วงา มือขวาถือขอช้าง มือซ้ายถือปืนสั้น ซึ่งบางแห่งก็บอกว่าเป็นปืนยาว มีช้างเป็นพาหนะคู่กาย
นางสงกรานต์องค์นี้มีผู้วิเคราะห์ว่าเป็นหนึ่งในนางสงกรานต์ฝ่ายร้ายจากฝ่ายร้ายทั้งหมดสองพระองค์ แต่ถึงนางจะเป็นฝ่ายร้ายนางก็มีศีลธรรมไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตกินแต่มังสวิรัติ ดังนั้นคำว่าร้ายที่นางได้มาก็คือการมอบความเลวร้ายให้กับพวกมารและคนชั่วแต่จะทำดีกับคนที่มีศีลธรรม เรียกได้ว่าพระนางก็เหมือนกับหน่วยปราบปรามที่คอยกำจัดคนพาลอภิบาลคนดีนั่นเอง
และเวรผลัดเปลี่ยนของพระนางกาฬกิณีเทวีก็จะไม่ค่อยได้มาทำหน้าที่กันบ่อย ๆ บางครั้งก็ 5 ปี บางครั้งก็ 6 ปี บางทีก็ล่วงเลยมาถึง 7 ปี ถึงจะได้มาทำหน้าที่กันสักครั้ง ซึ่งถ้าจะดูจากเหตุการณ์บ้านเมืองในประเทศไทยช่วงที่พระนางมาทำหน้าที่ ก็มักจะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงถึงขั้นแผ่นดินลุกเป็นไฟอยู่เสมอ ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นเพียงการนำความเชื่อมาผูกเข้ากับการเมือง เพราะมันอาจจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญก็ได้เช่นกัน
เพราะในสมัยก่อนในช่วงเวลาที่พระนางกาฬกิณีเทวีมาเข้าเวรนั้น ไม่ได้มีการระบุว่าจะเกิดเหตุร้ายแรงเหมือนกับที่โหราจารย์ทำนายกันไว้ เนื่องจากคำทำนายปกตินั้นมักจะพูดถึงแต่ความอุดมสมบูรณ์ค้าขายคล่องตัว ไม่ตรงกับคำทำนายที่บอกว่าบ้านเมืองจะเกิดการฆ่าฟัน หรือเกิดน้ำท่วมใหญ่ แล้วทำไมปีนี้คำทำนายถึงได้ออกมาดูเลวร้าย ขนาดน้ำท่วมไฟไหม้ ราวกับบ้านเมืองจะเกิดเภทภัยถึงขั้นล้มตายกันเป็นเบือแบบนี้
ยิ่งอิริยาบถของพระนางกาฬกิณีเทวีในปีนี้ ก็ดูจะผิดปกติกว่าที่เคยเป็น เพราะทุกครั้งการมาของพระนาง ถ้าไม่ยืนบนหลังช้างก็จะนั่ง ซึ่งบางครั้งแม้จะนอนมาก็เพียงนอนเล่นไม่ถึงกับหลับตาเหมือนกับปีนี้
ซึ่งคำตอบของข้อสงสัยทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นคำทำนายหรืออิริยาบถที่ผิดแปลกกว่าทุกปีนั้น ทางหนังสือพิมพ์บ้านเมืองได้อธิบายให้เราได้ทราบกันว่า แท้ที่จริงแล้วในมหาสงกรานต์ปีนี้ ซึ่งตรงกับวันศุกร์ที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2560 นั้น
สาเหตุที่นอนหลับตาบนหลังช้างเพราะพระนางกาฬกิณีเทวีจะต้องเดินทางมาเข้าเวรทำหน้าที่อัญเชิญพระเศียรของท้าวกบิลพรหมในตอนดึก คือช่วงเวลาตีสองสี่สิบเก้านาทีสิบสองวินาที ซึ่งเป็นเวลาพักผ่อนนอนหลับของมนุษย์และเทพ พระนางกาฬกิณีเทวีก็คงอ่อนล้าจนง่วงหลับบ้างเป็นธรรมดา
แต่ถึงแม้พระนางกาฬกิณีเทวีจะนอนหลับในปีนี้ก็ตาม เทพพาหะของพระองค์ก็ยังคงเป็นช้างทรง ซึ่งถือเป็นเครื่องช่วยค้ำชูต่อต้านสิ่งไม่ดีที่อาจจะเกิดขึ้นกันได้อยู่บ้าง นั่นจึงทำให้เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นอาจไม่เลวร้ายอย่างที่เคยเกิดขึ้นมากับบ้านเมืองของเราในอดีต ซึ่งก็ต้องเน้นกับท่านผู้ชมว่าทุกอย่างมันเป็นเพียงการทำนายเท่านั้น ดังนั้นเราจะขอข้ามเหตุการณ์บ้านเมืองที่เคยเกิดขึ้นกันไปเพื่อความอยู่รอดปลอดภัยของรายการเช่นกันนะครับ
การมาของพระนางกาฬกิณีเทวีในปีนี้ จึงถือเป็นโอกาสสำคัญที่จะใช้คำทำนายต่าง ๆ ในทางที่ถูกต้อง เพราะเหตุร้ายจะเกิดหรือไม่เกิด น้ำจะท่วมหรือไฟลุกท่วมแผ่นดินมันก็ขึ้นอยู่กับความคิดของคนใหญ่คนโตที่เราไม่สามารถจะทำนายทายใจของพวกเขาได้ ซึ่งสิ่งที่ทำได้จริง ๆ ก็มีเพียงสนุกกับสงกรานต์วันปีใหม่ไทย โดยไม่ก่อความเดือดร้อนรำคาญให้กับผู้คนรอบข้างจนเกินงามน่าจะดีที่สุดครับ
และมิติที่ 6 ขอถือโอกาสนี้ อธิษฐานขอให้ท่านผู้ชมพบกับความสุขกายสบายใจ ไร้โรคภัยเบียดเบียน ผ่านพ้นช่วงเวลาที่ไม่ดีเข้าสู่ชีวิตที่ดีกว่าตลอดปีตลอดไป อยากให้ชีวิตเป็นอย่างไรก็ขอให้สมหวังกันถ้วนหน้านะครับ
พบกับรายการมิติที่ 6 ศุกร์สยองขวัญ กับเรื่องราวเบา ๆ พร้อมกับที่มาของมันได้ทุกวันศุกร์สะดวก แล้วอย่าลืมกดสับสไครป์ กดไลก์ กดแชร์ หรือทิ้งคอมเมนต์กันไว้ด้วยนะครับ ยังมีเรื่องราวต่าง ๆ อีกมากมายรอคุณอยู่ สำหรับวันนี้... สวัสดี
เรียบเรียงโดย นิวัฒน์ อ่ำแสง
ขอบคุณที่มา: วิกิพีเดีย, หนังสือพิมพ์บ้านเมือง และ เวลาประเทศไทย
ภาพประกอบจาก: กระทรวงวัฒนธรรม
แท็ก: Kirinee Devi, กิริณีเทวี, กาฬกิณีเทวี, คำทำนาย, วันสงกรานต์, นางสงกรานต์, สงกรานต์, สงกรานต์ 2560, นางสงกรานต์ 2560, วันสงกรานต์ 2560, ประเพณี, ปีใหม่ไทย, ประเพณีสงกรานต์, ไสยาสน์หลับเนตร, ขี่ช้าง, 14 เม.ย. 2560, 2 นาฬิกา 49 นาที 12 วินาที
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น