1 กรกฎาคม 2559

มิติที่ 6 ศุกร์สยองขวัญ ไขปริศนาเรื่องเล่า The Slender Man




มีเรื่องเล่าตำนานภูติผีปีศาจอยู่มากมายบนโลกใบนี้ และหลาย ๆ เรื่องนั้นมันก็ถูกเล่าขานกันมาจากปากต่อปากมาตั้งแต่ยุคโบราณ และมีเรื่องเล่ามากมายที่พูดถึงสิ่งลึกลับที่มีดูคล้ายมนุษย์รูปร่างสูงใหญ่จากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ซึ่งทุกแห่งที่เล่าเรื่องราวของมัน ล้วนแต่แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมในการหลอกล่อมนุษย์ให้ตกอยู่ภายใต้การครอบงำของมัน !!


 เปิดดูที่ยูทูป

มิติที่ 6 ศุกร์สยองขวัญ กับเรื่องราวเบา ๆ ในวันศุกร์สะดวกสัปดาห์นี้ เราจะพาท่านไปพบกับอีกเรื่องราวของตำนานลึกลับสยองขวัญว่าแท้ที่จริงแล้วมันคืออะไรกันแน่ ก่อนจะเล่าเรื่องราวนี้ มิติที่ 6 ขอแจ้งให้ท่านผู้ชมทราบก่อนว่า เราได้แปลเรื่องราวนี้มาจากต้นฉบับภาษาอังกฤษที่ใช้คำศัพท์เฉพาะค่อนข้างมาก หากมีส่วนใดแปลผิดพลาด มิติที่ 6 ขออภัยมา ณ ที่นี้

เรื่องราวมีอยู่ว่า...

"สเลนเดอร์แมน" คือเรื่องราวที่ถูกเล่าขานต่อกันมานานกว่าหลายร้อยปีแล้ว เชื่อกันว่าสเลนเดอร์แมนนั้นมีบทบาทอยู่ในเรื่องเล่าและตำนานมากมายทั่วโลกเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของเฟียดุ๊บห์(Fear Dubh) หรือคนด้านมืด ในตำนานของสก๊อตแลนด์, ดัชทักเคนมัน(Dutch Takkenmann) หรือ Branch Man ในตำนานของชาวดัทช์ แม้แต่ในประเทศเยอรมันเองก็มี เดอดิแอร์โกรสมัน(Der Großmann, Der Grosse Mann) หรือตำนานผู้ชายตัวสูง



สเลนเดอร์แมนนั้นมักจะปรากฎตัวออกมาในรูปลักษณ์ของผู้ชาย ที่ดูแล้วมีลักษณะสูงเกินคนปกติทั่วไป แขนและขาของสเลนเดอร์แมนนั้นนับรวมกันแล้วจะมีตั้งแต่ 4 ถึง 8 ข้าง และแต่ละข้างก็จะมีสีดำราวกับว่ามันงอกออกมาจากกลางหลัง และยังมีภาพถ่ายจำนวนมากที่ยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง และได้มีคนสันนิษฐานอีกด้วยว่า สเลนเดอร์แมนนั้นสามารถติดต่อกับสัตว์ประหลาดปลาหมึกยักษ์หรือแทนทาเคิลได้ด้วย

สเลนเดอร์แมนมักจะอยู่ในรูปลักษณ์ของชายที่สวมเสื้อสูทสีดำดูโดดเด่นคล้าย ๆ กับกลุ่มชายชุดดำหรือเมนอินแบล็ค(MIB) และที่เข้ากับชื่อสเลนเดอร์แมนของมันนั้น ก็คือลักษณ์ของแขนขาและลำตัวที่ยืดยาวผิดมนุษย์ เอาไว้หลอกให้เหยื่อหวาดกลัว ซึ่งเมื่อมันยืดแขนออกมา เหยื่อของมันก็จะถูกสะกดจิตเข้าให้สู่ภวังค์ จนไม่สามารถที่จะบังคับตัวเองให้หลุดออกมาจากมนต์สะกด ที่จะทำให้พวกเขาต้องเดินไปหามันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ยิ่งไปกว่านั้น สเลนเดอร์แมนก็ยังสามารถแผ่มือและขาอันมากมายเหมือนกิ่งก้านของไม้ ไว้ใช้ในการเดินคล้าย ๆ กับด็อกเตอร์อ็อกโตปุส จากภาพยนต์เรื่องสไปเดอร์แมน และมันก็มีความสามารถยืดหยุ่นได้ คล้ายคลึงกับมิสเตอร์แฟนแทสติค จากภาพยนต์เรื่องแฟนแทสติคโฟร์อีกด้วย



ไม่เพียงแค่นั้น สเลนเดอร์แมนยังสามารถดูดกลืนสังหาร และพาเหยื่อของมันไปยังโลกอีกมิติที่เราไม่รู้จัก ทำให้ไม่เหลือร่องรอยหลักฐานใด ๆ ทิ้งไว้ให้ใครสืบตามหาร่องรอยได้อีกด้วย

ใบหน้าของสเลนเดอร์แมนนั้นออกจะดูน่ากลัวนิดหน่อย ซึ่งจากคำบอกเล่าของผู้คนที่พบมัน เขาบอกเราว่าบนใบหน้าของมันดูเหมือนจะถูกพันด้วยผ้าพันแผล ไม่ก็มีผ้าอะไรสักอย่างพันเอาไว้ จนไม่มีใครสามารถเห็นใบหน้าที่แท้จริงของมันได้ และมีผู้คนจำนวนมากเชื่อว่าใบหน้าที่แท้จริงของสเลนเดอร์แมนนั้น น่าจะไม่เหมือนคนทั่วไปแน่นอน



บางครั้งสเลนเดอร์แมนก็มักจะมีหมวกสวมอยู่ ซึ่งบางครั้งก็จะเป็นหมวกทรงโบวเลอร์หรือหมวกปีกแบบกลมมน ไม่ก็หมวกทรงเฟโดร่าหรือหมวกปีกกว้างที่เราเห็นกันทั่วไป ไม่ก็หมวกทรงสูง และมันมักจะมีผ้าพันคอไม่ก็สวมเนคไทผูกไว้ที่คอ มีทั้งสีแดงและสีเทาอีกด้วย

สเลนเดอร์แมนมักจะเก็บเอาแขนยาว ๆ พับไขว้หลัง ไม่ก็แนบลำตัวเอาไว้ใต้เสื้อสูทของมัน ทำให้ในภาพต่าง ๆ ที่สามารถบันทึกภาพของมันไว้ได้ ทั้งในภาพวาดและภาพถ่าย จะคุ้นตากับสเลนเดอร์แมนที่ดูคล้าย ๆ กับแจ็คสเกลลิงตั้น จากภาพยนต์เรื่องไนท์แมร์บีฟอร์คริสมาสต์เป็นอย่างมาก มันยังมีเสื้อโค้ทคลุมยาวตัวเก่ง และสวมรองเท้ายาวที่ดูเป็นสีดำเงางามแพรวพราวสมบูรณ์แบบเลยทีเดียว

จุดเด่นของสเลนเดอร์แมนนั้นก็คือ กลิ่นอายของความลึกลับของมัน แม้ว่าจะมีข่าวลือว่าสเลนเดอร์แมนนั้นจะฆ่าเฉพาะพวกเด็ก ๆ ก็ตาม ก็ยากที่จะยืนยันได้ว่าที่จริงแล้วมันต้องการแค่การฆ่าเท่านั้นหรือไม่



บ่อยครั้งที่มีการรายงาน หรือการบันทึกไว้ว่า เราจะสามารถพบกับสเลนเดอร์แมนได้ในป่าและแถบชานเมือง โดยในรายงานบอกอีกว่า มันชอบอยู่กับพวกเด็ก ๆ อย่างเช่นภาพถ่ายที่เห็น มันมักจะซุ่มตัวอยู่ในป่า เพื่อคอยดักจับเหยื่อเด็ก ๆ และดูเหมือนว่าในภาพที่ถ่ายได้นั้น สเลนเดอร์แมนมันไม่ได้หวาดกลัวแสงสว่างของดวงอาทิตย์ในเวลากลางวันเลยแม้แต่น้อย


เข้าใจว่าสเลนเดอร์แมนนั้นชอบที่จะสะกดรอยตามผู้คนที่รู้จักและหวาดกลัวมันอยู่แล้ว ด้วยการแกล้งปรากฎตัวออกมาให้พวกเขากลัวยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม เพราะว่าตัวมันนั้นคงจะชอบเห็นเหยื่อของตัวเอง ตกอยู่ในความหวาดกลัวมาก ๆ เท่านั้นเอง

สเลนเดอร์แมนนั้นเคลื่อนที่ด้วยวิธีการลอยตัวมากกว่าการเดิน ซึ่งสิ่งนี้ได้ทำให้เรารู้ว่ามันน่าจะเป็นอะไรที่เหนือกว่าสัตว์ประหลาดหรือมนุษย์ทั่วไป และเป็นสิ่งที่อธิบายได้ว่าทำไมมันถึงสามารถเคลื่อนที่ไปมาได้ด้วยสภาพร่างกายที่ผิดจากคนทั่วไป



แม้ว่าจะมีบางคนบอกว่าสเลนเดอร์แมนคือเรื่องเล่าที่ถูกสร้างขึ้นมาก็ตาม แต่มันก็มีบางคนยืนยันว่าเคยเห็นร่างของมันจริง ๆ โดยช่วงเวลาที่ถูกพบเห็นก็มักจะเป็นช่วงเวลากลางคืน โดยบังเอิญเปิดหน้าต่างห้องไปเห็นมัน หรือเดินอยู่ดี ๆ ก็ไปเจอมันเข้า ไม่เว้นแม้แต่ขับรถอยู่บนถนนสายเปลี่ยว ๆ อยู่ดี ๆ มันก็โผล่ออกมาให้เห็น

และสิ่งที่มันตั้งใจจะทำเป็นหลักนั้น ก็มักจะเป็นการลักพาตัวพวกเด็ก ๆ อย่างที่เราพบเห็นตามภาพถ่ายเหล่านั้น ซึ่งพวกมันสามารถหายตัวไปได้อย่างรวดเร็วมาก โดยพฤติกรรมของมันนั้นมักจะเป็นที่มาของเรื่องเล่ามากมาย ที่เราสามารถจะพบได้จากซีรีย์มาร์เบิลฮอร์เน็ตส์ ซึ่งในตอนจบของแต่ละเรื่องนั้น ก็ไม่สามารถจะบอกได้ว่ามันต้องการอะไรกันแน่

และสิ่งที่ทำให้สเลนเดอร์แมนกลายเป็นหนึ่งในสมาชิกของพาสตาร์ที่อยู่ในซีรีย์ของมาร์เบิลฮอร์เน็ตส์ก็เนื่องจากหลักฐานนี้
"มีความเข้าใจผิดอยู่เรื่องหนึ่ง จริง ๆ แล้ว มันไม่มีเส้นผมและใบหน้า แม้หลายสิ่งที่เข้าใจถูกต้อง มันก็มีคำถามบางอย่างที่ผมพบว่ามันไม่น่าจะถูกต้อง นั่นก็เพราะว่าเจ้าสเลนเดอร์แมนคงเข้าไปจัดการอะไรบางอย่างในหัวของคุณ จนทำให้ให้คุณคิดว่ามันต้องมีอะไรมากกว่านี้แน่ ๆ ซึ่งเป็นไปได้ว่าเจ้าสเลนเดอร์แมนนั้น น่าจะทำงานร่วมกันกับคนอื่นอีกประมาณ 3 ถึง 4 คน เลยทีเดียว
นั่นก็คือเจ้าฮู้ดดี้, มาสกี้, เดอะเร็ค และอีกตัวนึงก็น่าจะเป็นเจ้าดิอ็อบเซอร์เวอร์ ซึ่งไม่ค่อยจะมีใครพูดถึงกันสักเท่าไหร่ เนื่องจากตอนต่อของเรื่องราวที่เล่านั้นโนอาห์ แม็กซเวล ก็ยังไม่ได้เผยแพร่ให้เราทราบ โดยในซีรีย์มาเบิลฮอร์เนตนั้น ฮู้ดดี้ และมาสกี้ น่าจะเป็นผู้ติดตามของสเลนเดอร์แมน และเจ้าอมนุษย์กลายพันธ์ุอย่างเดอะเร็ค ก็น่าจะทำงานร่วมกับสเลนเดอร์แมนด้วย ซึ่งเรื่องนี้มันก็ยังไม่สามารถยืนยันได้อยู่ดี"



ส่วนในตำนานประวัติศาสตร์ศาสตร์ที่ถูกพูดถึงกันเมื่อเร็ว ๆ นี้ ก็คือภาพภาพวาดผนังถ้ำของชาวบราซิล ที่ถูกพบในสวนสาธารณะเซอร์ดาคาพิวาร่า ในแถบตอนเหนือของบราซิล อายุของมันยาวนานกว่า 9,000 ปี ก่อนคริสตกาล โดยภาพวาดนั้นปรากฏภาพตัวละครหนึ่ง ที่ดูจะแล้วผิดปกติเป็นอย่างมาก กำลังใช้มือรูปร่างแปลก ๆ นั้นชี้นำทางเหล่าเด็ก ๆ อยู่ แต่มันก็ไม่สามารถระบุได้ว่า อวัยวะพิเศษที่เห็นในภาพนั้นมันคืออะไรกันแน่



และอีกหลักฐานที่สามารถยืนยันได้ว่า สเลนเดอร์แมนมีตัวตนอยู่จริงมาตั้งแต่เมื่อสามพันหนึ่งร้อยปีก่อนคริสตกาลนั้น ก็อยู่ที่ประเทศอียิปต์นั่นเอง โดยมันเป็นเรื่องราวของ “หัวขโมยของพระเจ้า” หรือ “หัวขโมยแห่งคุค” ที่พบเจอได้จากสถานที่ทั่ว ๆ ไปในยุคของฟาโรห์วาซเนอร์ โดยมีอักษรเฮียโรกริฟฟิคสลักเรื่องราวของหัวขโมยที่ถูกพบอยู่ในสุสานของฟาโรห์ ที่มีผู้ค้นพบว่า เจ้าหัวขโมยตัวนี้มันมีลักษณะพิเศษอยู่ โดยภาพสลักนั้นปรากฏเป็นรูปร่างอันแปลกประหลาด เหมือนมีอวัยวะแยกออกมาเป็นกิ่งก้าน ระโยงระยางอยู่ทางด้านบน ซึ่งภาพแบบนี้มันไม่เคยถูกพบในภาษาเฮียโรกริฟฟิคมาก่อน



และที่มีชื่อเสียงมากที่สุดก็คือ ภาพแกะสลักบนแผ่นไม้ของประเทศเยอรมัน โดยฮานซ์เฟร็คเคนเบิร์กที่เป็นภาพของอัศวินในช่วงยุคกลางของศตวรรษที่ 16 กำลังต่อสู้กันอยู่ โดยภาพนี้ถูกพบอยู่ในปราสาทฮาลสเบิร์กในปี ค.ศ. 1883



ซึ่งเฟรคเคนเบิร์กนั้น เขาเป็นศิลปินที่รู้จักกันดีในด้านการเขียนสัดส่วนร่างกายของมนุษย์ โดยในภาพนี้จะมีตัวโครงกระดูกที่มีลักษณะหลายขาน่าแปลกประหลาด ดูผิดปกติกับงานสไตล์การทำงานของศิลปินคนนี้

นักโบราณคดีต่างไม่แน่ใจว่ารูปลักษณ์แบบนั้น จะเป็นเรื่องปกติกับสไตล์ของเฟรคเคนเบิร์ก ยิ่งในภาพที่พูดถึงสงครามศาสนาที่เกิดขึ้นในยุโรปด้วยแล้ว มันก็ยิ่งเป็นเรื่องราวปริศนาที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นมาได้ในช่วงยุคสมัยนั้น

อย่างไรก็ตาม มีหลายคนยืนยันว่าเฟรคเคนเบิร์คนั้น น่าจะกำลังกล่าวถึงเดอโกรสมัน หรือเดอะทอลล์แมน หรือชายตัวสูงในตำนานอาศัยอยู่ในป่าสีดำ พวกเด็กไม่ดีที่หนีออกมาเที่ยวในป่ายามค่ำคืน ถูกตามล่าโดยเดอโกรสมัน ที่มันจะไม่ยอมหยุดจนกว่าจะสามารถจับเด็ก ๆ พวกนั้นได้ หรือไม่ก็มันจะบังคับให้พวกเด็ก ๆ กลับบ้านไปสารภาพผิดกับพ่อแม่ ซึ่งมันก็มีเรื่องเล่าจากสมาชิกหนังสือเก่าคนหนึ่ง ที่อยู่ในยุค ค.ศ. 1702 ได้เคยคุยกับเพื่อน ๆ ในงานมีทติ้งครั้งนั้นว่า
“ลูกของฉัน ชื่อลาร์ เขาหายไป เขาถูกลักพาตัวไปจากห้องนอน มีสิ่งเดียวที่เราพบก็คือเศษชิ้นส่วนของเศษผ้าสีดำ มันดูเหมือนกับผ้าฝ้าย แต่มันดูนุ่มกว่า บางกว่า แล้วลาร์ก็กลับมาที่ห้องนอนเมื่อวาน เขากรีดร้องสุดเสียงว่า “มีเทวดาอยู่ข้างนอก !” ฉันถามเขาว่าเขาพูดเรื่องอะไร เขาก็ตอบกลับมาด้วยเรื่องไร้สาระเกี่ยวกับ เดอ โกรสมันน์
เขาเล่าว่าเขาได้เข้าไปในป่าละเมาะท้ายหมู่บ้าน และพบกับศพวัวของฉัน มันถูกแขวนอยู่บนต้นไม้ ตอนแรกฉันก็ไม่ได้คิดอะไรมาก แล้วลาร์ก็หายตัวไปอีก พวกเราต้องหาลาร์ให้พบ และครอบครัวของเราก็ต้องรีบย้ายหนีออกไปก่อนที่พวกเราจะถูกฆ่ากันหมด ฉันขอโทษนะลูกชาย ฉันควรจะฟังเธอ ขอให้พระเจ้ายกโทษให้ฉันด้วย”


และก็ยังมีตำนานของชาวโรมันที่เล่าถึงเรื่องราวของชายตัวสูง หรือเดอะทอลล์แมน ที่น่าจะเป็นเรื่องราวของสเลนเดอร์แมนอีกเรื่องหนึ่งว่า

“คนตัวสูงนั้นยืนอยู่ที่ลานโล่ง แต่งตัวราวกับพวกขุนนางในชุดสีดำสนิท มีเงาพาดทับร่างของเขาอยู่ ท่ามกลางคืนอันมืดสลัวนั้น ดูเหมือนเขาจะมีมือหลายข้าง ทั้งยาวและเรียวเล็กเหมือนกับงู ดูเฉียบคมราวกับมีด ดูบิดไปมาได้เหมือนมีหนอนอยู่บนปลายเล็บ เขาไม่พูดอะไร แต่เราก็สามารถเข้าใจในสิ่งที่เขากำลังคิดอยู่นั้นได้”

โดยในเรื่องเล่านั้น ชายตัวสูงบังคับให้คุณแม่คนหนึ่ง ฆ่าสามีและลูกของเธอ ก่อนจะลากเข้าพวกเข้าใส่เข้าไปในเตาผิง และชายคนนั้นก็ได้กอดเธอไว้ในอ้อมแขนแห่งไฟ

และมีตำนานของประเทศอังกฤษที่พูดถึงมนุษย์ต้นไม้ หรือทรีแมน ที่มีร่างกายบอบบางและมีอวัยวะแขนขาแปลก ๆ แยกออกมาเหมือนกิ่งก้านของต้นไม้



เขาจะอยู่ในป่าเท่านั้น และมักจะถูกพบอยู่ในเรื่องราวที่พวกพ่อแม่เอาไว้เล่าให้ลูก ๆ ที่ออกอาการเป็นเด็กดื้อได้ฟัง โดยเรื่องเล่ามักจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการหายไปของพวกเด็ก ๆ ที่มีมนุษย์ต้นไม้เข้ามาเกี่ยวข้องนั่นเอง

--จบ--

หลังจากมิติที่ 6 ได้ตรวจสอบเรื่องราวของสเลนเดอร์แมนจากช่องทางต่าง ๆ โดยเริ่มจากการถูกพูดถึงครั้งแรกนั้น ทำให้เราได้พบว่าแท้ที่จริงแล้วเรื่องราวของอมนุษย์ลึกลับตัวนี้ เกิดขึ้นมาจากการประกวดแต่งภาพแนวสยองขวัญ ของเวบกระดานข่าว "Something Awful(SA) Forums" ที่จัดไปเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน ค.ศ. 2009 โดยมีกติกาว่า ภาพที่ส่งเข้าประกวด จะต้องสร้างขึ้นจากภาพถ่ายธรรมดา ๆ ให้กลายเป็นภาพน่ากลัว ด้วยวิธีการตกแต่งภาพบนซอฟท์แวร์อะไรก็ได้ ซึ่งก็มีสมาชิกในเวบกระดานข่าวแห่งนี้เข้าร่วมสนุกตกแต่งภาพน่ากลัวออกมามากมายหลายรูปแบบ จนกระทั่งวันที่ 10 มิถุนายน ค.ศ. 2009 ก็ได้มีสมาชิกชื่อว่า "Victor Surge" หรือชื่อจริงว่า "Eric Knudsen" ได้ทำการโพสต์ภาพถ่ายขาวดำ 2 ภาพ ที่ในภาพเป็นกิจกรรมของเด็ก ๆ โดยตั้งชื่อภาพว่า “สเลนเดอร์แมน” โดยทำให้ภาพดูเหมือนจะมีปริศนาลึกลับ กับร่างของอะไรบางอย่างที่ยืนอยู่กับพวกเด็ก ๆ ในภาพด้วย พร้อมกับคำอธิบายใต้ภาพเพิ่มเติมว่า

“เรายังไม่อยากจะไป เราไม่ต้องการฆ่าพวกเขา แต่มันไม่ยอมพูดจา มันมีแขนขาที่ดูน่ากลัว และดูอ่อนโยนในเวลาเดียวกัน… 1983, ไม่ทราบชื่อผู้ถ่าย, เสียชีวิตแล้ว"


"หนึ่งในสองภาพนั้นนำมาจากห้องสมุดของเมืองสเตอริ่ง ที่ถูกพบหลังจากวันที่เด็กทั้ง 14 คน ได้หายตัวไป ซึ่งมันเป็นภาพที่เห็นตัวตนของสเลนเดอร์แมน”แต่ทางเจ้าหน้าที่บอกว่ามันเป็นแค่ภาพเสียจากความผิดพลาด ซึ่งสัปดาห์ต่อมาก็ได้เกิดเหตุไฟไหม้ห้องสมุดแห่งนี้ ภาพจริงภาพนี้จึงถูกนำมาเป็นหลักฐาน... 1986, ถ่ายภาพโดย แมรี่ โธมัส, หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายน ค.ศ. 1986”

และหลังจากวิคเตอร์ได้โพสต์ภาพสองใบนี้ไป ในวันถัดมาเขาก็ได้สร้างเรื่องเล่าต่อด้วยการเพิ่มภาพถ่ายเข้าไปอีก พร้อมทั้งเปิดอีกแอคเคาท์เพื่อปลอมตัวเป็นด็อคเตอร์ และในวันถัดมาก็มีสมาชิกใช้ชื่อว่า "LeechCode5" ได้ทำการเพิ่มภาพถ่ายตึกที่ถูกไฟไหม้ ซึ่งเขาก็ได้อ้างเรื่องเล่าให้เกี่ยวกับสเลนเดอร์แมนเข้าไปด้วย และในวันที่ 14 มิถุนายน ปีเดียวกัน สมาชิกชื่อ "TrenchMaul" ก็ได้นำภาพสเลนเดอร์แมนมาใช้กับเรื่องเล่าของเขา โดยโพสต์ดังกล่าวยังสามารถเข้าชมได้อยู่ถึงทุกวันนี้

ส่วนแรงบันดาลใจในการสร้างตัวสเลนเดอร์แมนนั้น น่าจะรับอิทธิพลมาจากเกมชื่อว่า “Chzo Mythos” ที่สร้างโดย "Ben ‘Yahtzee’ Croshaw" ในปี ค.ศ. 2003 โดยในตัวเกมนั้นมีตัวละครหนึ่งขื่อว่า “Cabadath” ซึ่งมีบางคนเรียกมันว่าชายตัวสูง หรือทอลแมน ที่มีลักษณะตัวสูงผอมอยู่ในชุดเสื้อคลุมยาวสีดำ ไม่มีใบหน้า โดยในตัวเกมเจ้าคาบาดาธนี้จะคอยเดินตามเพื่อลอบค่าผู้เล่นนั่นเอง

"Cabadath" จากเกม "Chzo Mythos"

ส่วนเดอโกรสมัน จริง ๆ แล้วแปลว่าเดอะเกรทแมน หรือผู้ยิ่งใหญ่ แต่กลับถูกใช้ในเรื่องเล่าในความหมายว่าเดอะทอลแมน หรือคนตัวสูง และอ้างว่ามันเป็นเรื่องเล่าขานในตำนานของชาวเยอรมัน มันเป็นเรื่องราวที่มาจากเรื่องแต่งเพื่อใช้ประกอบในเกมหนึ่งโดยบรรยายถึงสัตว์ประหลาด เรื่องราวนี้ได้ถูกนำมาดัดแปลงให้เกี่ยวข้องกับสเลนเดอร์แมน โดยครั้งแรกที่ถูกใช้นั้นมันอยู่ในซีรีย์สเลนเดอร์แมนบนช่องยูทูปชื่อว่า "TribeTwelve" และมันก็ได้ถูกยกไปเล่าอีกหลายครั้งในเรื่องน่ากลัวอื่น ๆ ด้วย ส่วนชื่อสวาซวาลด์ หรือป่าสีดำ ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีอยู่จริงในเยอรมันนั้น มันแค่ถูกนำมาอ้างเป็นที่พบตัวสเลนเดอร์แมนเท่านั้นเอง

โนอาห์ แม็กซ์เวล เจ้าของช่องยูทูป TribeTwelve

และภาพพิมพ์ไม้ที่ถูกอ้างว่าเป็นภาพสเลนเดอร์แมนกำลังต่อสู้กับอัศวินนั้น แท้ที่จริงชื่อภาพก็คือ  เดอริตเตอร์ หรือภาพเดอะไนท์ ที่แปลว่าอัศวิน ซึ่งเป็นภาพพิมพ์บนไม้โดยฮานซ์เฟรคเคนเบิร์กจริง ๆ แต่มันก็ถูกดัดแปลงมาจากภาพต้นฉบับ ซึ่งตัวประหลาดในภาพนี้นั้นแท้ที่จริงแล้วเป็นภาพปีศาจโครงกระดูก และมีขาเพียง 2 ขาเท่านั่นเอง

ภาพ เดอ ริตเตอร์ ภาพตัดต่อ (ซ้าย), ภาพต้นฉบับ (ขวา)

และสาเหตุที่ทำให้เรื่องราวของสเลนเดอร์แมนเริ่มกลายเป็นที่รู้จักกันมากมายนั้น น่าจะเป็นเพราะว่ามันได้ถูกนำไปเล่าในเวบกระดานข่าว "4chan" ในหมวดเรื่องเล่าสยองขวัญ เอ็กซ์พารานอมอลเช่นเคย โดยหลักฐานเก่าที่สุดที่พอจะหาได้นั้น สามารถพบได้จากเวบไซต์เก็บหน้าเพจในอดีตของเวบนี้ เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ค.ศ. 2009 โดยโพสต์ดังกล่าวประกอบไปด้วยการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องราวของสเลนเดอร์แมน และภาพประกอบแฟนอาร์ตที่ถูกวาดขึ้นมา 2 ภาพ

ภาพที่หลงเหลือจากการสนทนาในบอร์ด 4chan.net

และนอกจากเวบบอร์ด 4chan แล้ว สเลนเดอร์แมนก็ได้ถูกใช้ในเวบเล่าเรื่องสยองขวัญอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น  Unfiction Forums, Fangoria, Bungie, Facepunch, Wikibin, /x/enopedia, TVTropes, Kongregate, DeviantArt, SlenderNation และ Mythical Creatures Guide อีกด้วย

และต่อมาก็มีคนสร้างเรื่องราวของลูกพี่ลูกน้องสเลนเดอร์แมนขึ้นมาอีกตัว และตั้งชื่อมันว่า "เทรนเดอร์แมน" โดยล้อเลียนว่าเป็นญาติของสเลนเดอร์แมนที่หลงไหลในเสื้อผ้าแฟชั่น แต่งตัวเรียบหรูดูเหมือนคุณชายที่พบได้ในละครของไทย โดยมีการโพสต์ภาพหุ่นโชว์เสื้อผ้าที่ไม่มีใบหน้า ที่นำภาพมาจากสมาชิกของเวบไซต์ทัมเบลอร์ ซึ่งเขาโพสต์เอาไว้บนบล็อกของเขาเอง เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ค.ศ. 2012 ในชื่อเอนทรี่ว่า “สเลนเดอร์แมนกับเสื้อผ้าในวันศุกร์”

เทรนเดอร์แมน (ภาพจาก MEME Generator)

สารพัดคำคมจาก (MEME Generator)

ซึ่งภายหลังชื่อและความสัมพันธ์ฉันท์ญาติของเทรนเดอร์แมนกับสเลนเดอร์แมนนั้น ได้ถูกสมาชิกของเวบทัมเบลอร์อีกคนที่ชื่อว่า "ไอแลคแทค" คอมเมนท์ทิ้งเอาไว้ใต้ภาพนั้นเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ปีเดียวกัน แล้วเจ้าเทรนเดอร์แมนก็เริ่มโด่งดังขึ้นมาในเวบทัมเบลอร์ จนมีภาพประกอบคำพูดที่เรียกว่า "มีม(Meme)" ออกมามากมายหลายวลี รวมถึงภาพการ์ตูนล้อเลียนเทรนเดอร์แมนกับสเลนเดอร์แมนที่มีรสนิยมการแต่งตัวไม่เหมือนกันอีกด้วย

สเลนดี้ "เราสองคนเหมือนกันตรงไหนฟระ ? "  เทรนดี้ "นายเปลี่ยนเสื้อสูทนะ แล้วก็ไปตากแดดให้ผิวสีแทนนะ จากนั้นก็ลดน้ำหนักให้หน้าผอมนะ หาเชิ้ตสีน้ำตาลมาใส่ แล้วก็เลิกแกล้งเด็ก ๆ ซะ"

ส่วนมาเบิลฮอร์เนตที่ถูกอ้างถึงในเรื่องนั้น แท้ที่จริงแล้วก็เป็นช่องยูทูปที่ถูกสร้างขึ้นมาจากสมาชิกที่ใช้ชื่อย่อว่า “เจย์” ที่นำเสนอฟุตเทจเกี่ยวกับการหายไปของเพื่อน ๆ แต่ละคนของเขา ซึ่งต่อมาเรื่องราวนี้ก็ถูกเปิดเผยว่า ช่องนี้เกิดจากการสร้างของเด็กนักเรียนสองคน ที่เป็นสมาชิกของเวบบอร์ด "ซัมทิงออวฟูล" ชื่อว่า "KicksYouInHalf(Joseph DeLage)" และ "Ce gars(Troy Wagner)" โดยถ่ายทำเป็นแนวเรียลลิตี้ที่มีเรื่องราวเกี่ยวข้องกับสเลนเดอร์แมน แล้วตั้งชื่อซีรีย์นี้ว่า "มาเบิ้ลฮอร์เนต" นั่นเอง ซึ่งซีรีย์นี้ ได้รับความนิยมแพร่หลาย จนถูกแชร์ไปบนเวบสังคมของอเมริการมากมาย จนปัจจุบันมีสมาชิกติดตามช่องนี้มากกว่าสี่แสนคนแล้ว

จากซ้ายไปขวา ทิม ซุท , โจเซฟ เดอแลจ , ทรอยแว็กเนอร์

และต่อมาทั้งโจเซฟ เดอแลจ และทรอย แวกเนอร์ ก็ได้ถูกทาบทามให้ร่วมงานทิมซุทตั้น เพื่อร่วมกันเขียนบทในเกมชื่อว่า "สเลนเดอร์เดอะอาไรฟ์วัล(Slender: The Arrival)" ที่ออกจำหน่ายในวันที่ 26 มีนาคม ค.ศ. 2013 และภาคต่อในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ปีเดียวกันอีกด้วย

 ไปที่เวบไซต์เกม
เกม Slender : The Arrival
ด้วยความนิยมของสเลนเดอร์แมนที่มีขึ้นมามากมาย ก็ได้ทำให้มีช่องยูทูปคือ "brett824" โดยได้ทำออกมาล้อเลียนซีรีย์มาเบิลฮอร์เนต ออกมาเป็นเพลงในชื่อว่า "ทเวนตี้ดอลลาร์" โดยใช้ภาพจากตอนที่ 6 ของมาเบิลฮอร์เนตมาดัดแปลง

งานล้อเลียนโดยแต่งเพลงประกอบซีรีย์ มาเบิล ฮอร์เนต ของ brett824


และยังมีเกมเกี่ยวกับสเลนเดอร์แมนตามออกมาอีกมากมาย ซึ่งมาถึงตอนนี้ท่านผู้ชมก็น่าจะพอทราบกันว่ามีเกมอะไรบ้างแล้วนะครับ

ส่วนภาพยนต์นั้น สเลนเดอร์แมนก็ได้ถูกทำเป็นหนังสั้นจากฝีมือของ "AJ Meadows" บนโครงการ "คิกสตาร์เตอร์" ได้เงินมาทำถึง 11,012 ดอลลาร์สหรัฐ จนเมื่อสร้างเสร็จออกฉาย ก็สามารถทำยอดผู้ชมสูงถึงกว่าห้าแสนคนภายในสัปดาห์เดียว แต่สุดท้ายหนังสั้นดังกล่าวก็ถูกยูทูปลบออก เนื่องจากปัญหาละเมิดลิขสิทธิ์ในคลิป เมื่อเดือนเมษายน ค.ศ. 2013

เวบเพจของหนังสั้น The Slenderman ที่ปัจจุบัน ไม่มีอะไรเคลื่อนไหวแล้ว

และในปี ค.ศ. 2011 ซีรีย์ดังเรื่อง "Dr Who" ก็ได้นำเสนอเรื่องราวของเอเลี่ยนตัวหนึ่งที่มีลักษณะร่างกายสูงใหญ่แต่งกายอยู่ในชุดสีดำคล้ายกับสเลนเดอร์แมน ไว้ในซีซัน 6 ตอน "The Impossible Astronaut" ซึ่งก็ไม่แน่ว่า ทางโปรดิวเซอร์ของซีรีย์นี้อาจจะถูกใจกับคาแรกเตอร์ของสเลนเดอร์แมนจึงนำมาใช้ก็เป็นได้

ภาพตัวอย่าง ซีรีย์ ดร.ฮู เดอะไซเลนซ์

ส่วนในเวบไซต์ของไทยนั้น เรื่องราวของสเลนเดอร์แมนก็ได้ถูกนำมาเล่าตามเวบไซต์กระดานข่าวมากมาย ซึ่งก็มีหลายแห่งได้ทำการแปลเรื่องราวของมันอยู่บ้าง แต่ก็มีผู้พบเห็นอยู่น้อย ทำให้บางท่านอาจเข้าใจผิด คิดว่าเรื่องสเลนเดอร์แมนนั้นเป็นเรื่องราวตำนานที่ถูกเล่ากันมานาน ซึ่งจริง ๆ แล้วเรื่องราวของมันเพิ่งถูกเล่ากันมาไม่ถึง 10 ปีเลยด้วยซ้ำ


เมื่อเรารู้ที่มาของสเลนเดอร์แมนกันแบบนี้แล้ว มิติที่ 6 ก็อยากจะขอแนะนำท่านผู้ชมว่า เวลาที่มีใครนำเรื่องราวของสเลนเดอร์แมนออกมาเล่ากันในวงสนทนา ก็จงอย่าได้ไปทำอะไรให้เรื่องเล่านั้นต้องหยุดชะงักกันเลยจะดีกว่านะครับ เพราะว่าความจริงนั้น มันช่างไม่มีสเน่ห์เอาเสียเลย




อย่าลืมพบกับรายการ มิติที่ 6 ศุกร์สยองขวัญ กับเรื่องราวเบา ๆ ที่เรานำมาเล่าพร้อมกับหาที่มาของมันกันได้ ทุกวันศุกร์สะดวกนะครับ หลังจากจบเรื่องราวแล้ว อย่าลิมกดไลค์ กดแชร์ และทิ้งคอมเมนต์กันไว้นะครับ ยังมีเรื่องราวต่าง ๆ อีกมากมายรอคุณอยู่ สำหรับวันนี้ สวัสดี

แปลและเรียบเรียงโดย นิวัฒน์ อ่ำแสง
ที่มา
[1] Something Awful – Create Paranormal Images – Gerogerigege 6/8/2009
[2] Something Awful – Create Paranormal Images – Victor Surge / 6/10/2009
[3] Something Awful – Create Paranormal Images – Victor Surge / 6/11/2009
[4] Something Awful – Create Paranormal Images – LeechCode5 / 6/12/2009
[6] Something Awful – Create Paranormal Images – TrenchMaul / 6/14/2009
[7] (NSFW Link) 4chan Archive / 6/24/2009
[18] Mythical Creatures Guide – Slender Man
[24] Twitter – @MarbleHornets
[26] Open The Door And You Will Find Me – Seeking truth : Assignement
[28] YouTube – EverymanHYBRID
[29] YouTube – TribeTwelve
[31] YouTube – troyhasacamera
[33] Notch posts images of new Mob – Reddit / 7-26-2011
[34] Enderman – Minecraft Wiki
[35] Notch Tweet – Twitter / 7-30-2011
[37] Wikipedia – Chzo Mythos
[38] Chzo Mythos wiki – Cabadath
[43] Wikipedia – Silence ]Doctor Who[
[44] Wikidot – The Operator
[46] Urbanlegendsonline – The Slender Man
[47] Encyclopedia Slenderia – Der Schwarzwald und Der Ritter
[49] Green Meteor Team – Slenderman
[50] 64Digits – 64Digits?
[52] Parsec Productions – Slender – Windows
[53] Parsec Productions – Slender – Mac
[56] Parsec Productions – Parsec Productions
[57] Memegenerator – Trender Man
[60] Wikipedia – Slender: The Arrival
[62] Kickstarter – The Slender Man Movie
[63] OfficialSlenderManMovie.com – Home (Archive)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ประกาศ

เพื่อเป็นกำลังใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กับเรา ขอความร่วมมือจากผู้ที่นำเรื่องราวจากมิติที่ 6 ไปใช้ในที่ของท่าน กรุณาลงเครดิตกลับมาที่เราจะเป็นพระคุณอย่างสูงครับ