1 สิงหาคม 2564

コワイシャシン - โควายชาชิง ไขปริศนาตำนานเกมอาถรรพ์ Play Station 1 !!!





เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ.2564 ที่กลุ่มมิติที่ 6 ออฟฟิเชียลกรุปบนเฟสบุก มีสมาชิกชื่อ ลูซิ ลาน้อย คิคุโอ แชร์โพสต์จากเพจดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ ที่ฝากมาถามกับเราว่า ตำนานเรื่องนี้ เป็นเรื่องจริงหรือไม่

มิติที่ 6 ศุกร์สยองขวัญ กับเรื่องราวเบา ๆ ในวันศุกร์สะดวกสัปดาห์นี้ เราจะมาเล่าถึงตำนานเรื่องนั้น コワイシャシン - โควายชาชิง ไขปริศนาเกมอาถรรพ์ Play Station 1 !!! วิจารณญาณของคุณอยู่ที่ไหน หากไม่มีใส่ก็จงหาเอามาสวม เสร็จแล้วจึงค่อยมานั่งรวม เพื่อมาดูกันต่อว่า เรื่องราวทั้งหมดนี้ มันคืออะไรกันแน่ !!?


ดูเหมือนว่า เกมโควาย ชาชิง บนเครื่องโซนี่ เพลย์สเตชั่น มันจะแย่มากเลย

ผมเคยมีเพื่อน พวกเราทำงาน ในบริษัทพัฒนาเกมแห่งหนึ่ง เลยได้มีประสบการณ์ มันคือเรื่องเลวร้าย มีคนบาดเจ็บล้มตาย เรียกได้ว่าหลายคน

เจ้าเพื่อนคนนั้น เขาเล่าถึงตัวเอง เขาจบจากโรงเรียน ม.ปลาย แล้วก็เข้ามาอยู่ฝ่ายขาย เลยได้มาทำงานกับผม ก็นะ มันเป็นบริษัทเล็ก ๆ แต่ถึงจะพูดแบบนั้น ที่นั่น เป็นบริษัทพัฒนาเกมอินดี้ ที่ดูแลพนักงานเป็นอย่างดี

ในปีที่สอง ตั้งแต่พวกเรา ได้เข้ามาทำงานที่นี่ มันมีการประชุม เกี่ยวกับการพัฒนาเกม ให้กับเครื่องเพลย์สเตชั่น ที่กำลังจะเปิดตัวในช่วงฤดูร้อน ที่กำลังจะมาถึง

หัวข้อการประชุม คือฝ่ายพัฒนาเกม พวกเขาวางแผนถึงวันนั้น นั่นก็คือการจะสร้างเกม เป็นคิวพิเศษเลย ซึ่งตัวเกมใหม่ที่ว่า มันจะเกี่ยวข้อง กับภาพถ่ายติดผี ไม่ก็ภาพอาถรรพ์

หัวหอกการพัฒนา คงไม่ดี ถ้าจะเรียกชื่อจริงของเขา ขอเรียกแค่ คุณ เค คาวะ ก็แล้วกัน เขาเป็นพวกจริงจัง ชอบเรื่องภาพถ่ายติดวิญญาณ ไม่ก็ภาพที่ถ่ายด้วยพลังจิต เขาต้องการความสมจริง เพื่อให้ผู้เล่น รู้สึกว่า ได้เจอผีจริง ๆ ในเกมแล้ว

คุณเคคาวะเสนอไอเดียนี้ ที่ประชุมว่ายังไงบ้าง พวกเราไม่รู้หรอก รู้แค่ผลของการประชุม คือท่านประธานโอเค และสั่งเริ่มการพัฒนาทันที

ปัญหาใหญ่ คือพวกเรา จะไปหาภาพถ่ายอาถรรพ์ มาได้อย่างไร ?

ตอนแรก มีการเสนอกันว่า มันไม่จำเป็น ที่จะต้องใช้ภาพถ่ายของแท้เลย แต่ดูเหมือน คุณเคคาวะกับประธาน จะมีน้ำโหขึ้นมาทันที เหตุผลของพวกเขา คือมันจะทำให้เกมขายไม่ดี และมันก็คือที่มา ของคำสั่งเด็ดขาด ให้เริ่มค้นหาภาพถ่ายแบบนั้น โดยทุกภาพ จะต้องเป็นของจริง

เพื่อนของผม ที่มีหน้าที่โดยตรง ก็เลยต้องทำตามคำสั่งนั้น

เหมือนเผือกร้อน เพราะเมื่อเริ่มหารูป จะไปหามาจากไหนกันล่ะ ? กำลังใจก็เริ่มจะเสีย ทำให้เขา ต้องยกหูโทรหาพวกนิตยสาร ไปจนโทรหาเพื่อน ๆ ที่ยังเรียนมหาวิทยาลัยกันอีกทาง ผลของความพยายาม เขาได้ภาพถ่ายติดผีมาจำนวนหนึ่ง น่าจะ 7 ไม่ก็ 8 ภาพ

เขานำพวกมัน เข้าไปเสนอในที่ประชุม มันแป้ก คุณเคคาวะไม่โอเค

อย่างที่เพื่อนผมบอกนั่นแหละ ถึงมันจะเป็นงานของเขา แต่เขาไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ

ผมเลยต้องช่วยอีกทาง ด้วยการโทรไปตามนิตยสาร พวกที่ตีพิมพ์เรื่องพวกนั้น พวกแนวอาถรรพ์ แล้วผมก็ได้รับการแนะนำ ให้รู้จักกับบริษัทโปรดักชั่นแห่งหนึ่ง ดูเหมือนพวกเขาจะเชี่ยวชาญ ในการจัดการกับเรื่องพวกนี้

ผมกับเพื่อน จึงรีบติดต่อขอเข้าไปคุย หลังจากการเจรจา ผมถึงได้รู้ว่า บริษัทนี้ เขารับจัดหารูปแนวนั้น ให้กับพวกรายการแนวผี ๆ ทางช่องโทรทัศน์ด้วย

เจ้าเพื่อนของผมก็สงสัย ภาพถ่ายแบบนั้น บริษัทเขาไปได้มายังไง ? พวกเขาก็ตอบว่า รูปพวกนั้น ได้มาจากคนทรง นี่หมายความว่า พวกเขา มีคอนเน็กชั่นกับคนทรงสินะ และถ้าคนทรงเสนออะไรมา พวกเขาก็จะซื้อมัน แบบนั้นใช่ไหม ?

ผมคิดว่า ภาพจากบริษัทนี้ น่าจะพอใช้ได้แน่ ๆ ก็เลยให้เพื่อนของผม ติดต่อคุุณเคคาวะ ให้มาคุยเองดีกว่า ให้เขาคุยคอนเสปกันตรง ๆ แล้วก็ทำสัญญา จบ ๆ ไปรวดเดียว

โดยสิ่งที่คุณเคคาวะต้องการนั้น

หนึ่ง พวกมัน ต้องเป็นภาพอาถรรพ์ของจริง

สอง พวกมัน ต้องไม่ได้ผ่านพิธีไล่ผี

สาม หากมันเป็นภาพมีเจ้าของ ต้องได้รับความยินยอม จากเจ้าของภาพเสียก่อน

หลังการทำสัญญา หน้าที่ก็เลยตกมาที่ผม ผมออร์เดอร์ไป 30 ภาพ จบปัญหาแรกไป มันก็ยังติดอยู่อีกปัญหา พวกเราต้องมาคุยกัน ถึงวิธีการปราบผีจริง ๆ ซึ่งระบบของเกม จะใช้การบังคับลูกศร เพื่อเลือกตัดสินใจใด ๆ ในการตามล่าหาวิญญาณ ที่อยู่ในภาพติดผีพวกนั้น อย่างที่เห็น ภาพอาถรรพ์แบบเต็มหน้าจอ ผู้เล่นต้องใช้ลูกศร ชี้ให้ตรงกับตัววิญญาณที่เจอ การต่อสู้ถึงจะเริ่มต้น สารพัดวิธีการไล่ผี โดยสองภาพแรก มันจะดูเหมือนไม่มีอะไร เนื้อเรื่องจะบอกเราว่า การเอาชนะวิญญาณ ที่อยู่ในภาพติดผีของจริงพวกนี้ จะส่งผลทำให้ เราสารมารถชนะผีตัวสุดท้าย ที่จะออกมาเหมือนเกมแอคชั่น ต่างจากผีจริง ๆ แบบสิ้นเชิง

ดูเหมือนคุณเคคาวะ จะได้รับการแนะนำ ให้พบกับคนทรงคนนั้น คนที่หาภาพมาให้นั่นไง คุณเคคาวะ คงต้องการข้อมูลของจริง เพื่อจะทำให้เนื้อเรื่องในเกมมันถูกต้อง แต่เนี่ย เขาบอกให้ผมเป็นคนไปคุย เพื่อไปถามคนทรงว่า พอจะสอนวิธีไล่ผี ให้คุณเคคาวะได้หรือเปล่า

บอกตรง ๆ เพื่อนของผมบอกว่า ถ้าผมพูดถามไปแบบนั้น พวกเรา คงถูกคนทรงคนนั้นเล่นงาน แต่ผมว่ามันน่าจะโอเคหรือเปล่า ถ้าพวกเรา จะนำชื่อของคนทรงคนนั้น ไปใส่ไว้ในเครดิตของเกมด้วย ในฐานะผู้กำกับฝ่ายไสยศาสตร์ รวมไปถึง การจ่ายเงินค่าเสียเวลา ให้กับเขาตามสมควร

แล้วสิ่งที่ได้มา มันคือวิธีการไล่ผี เป็นการใช้ยันต์ ประทับตราหน้าภาพถ่ายชวนสยอง และช่วงเวลานั้น จะต้องมีคำพูดซักหน่อย ควรจะเป็นบทสวดมนต์ แล้วมันจะจบลง ด้วยดวงไฟ พุ่งเข้าใส่โฮมะ ประมาณนั้น

หลังจากวันนั้น งานของทุกคนก็คือ การนำสิ่งที่ได้ ไปรวมไว้ในระบบเกม

ตอนแรก มีการตัดสินใจ ให้การเรียกใช้ยันต์ดังกล่าว ผ่านการกดปุ่มคอนโทรเลอร์ ของเพล์ย์สเตชั่น

มีการวางแผน ใช้ตัวควบคุมแบบอานาล็อก ให้วาดเป็นดาวไสยเวทย์ แต่ดูเหมือนมันจะทำยากเกินไป การใช้ปุ่มกดเอา จึงเป็นทางออกที่ดี

ใช้นิ้วหัวแม่มือ กดสามเหลี่ยมก่อน ตามด้วยวงกลม ตัวช่วยเหลือจะปรากฏขึ้นมา มันคือเครื่องหมายต่าง ๆ ที่ผู้เล่นจะต้องเลือกใช้ จะต้องมีเสียงดังขึ้น คำสวดมนต์ที่ว่า มันจะทำให้ผีถูกโจมตี และสุดท้าย หน้าจอจะสว่างไสว ก่อนที่จะดับไป

พอคิดระบบได้ลงตัว ที่เหลือก็ไม่ยาก การเขียนโปรแกรมมันง่าย จึงทำให้บางอย่างในเกม สามารถเริ่มเล่นได้คร่าว ๆ ขณะที่ตอนนั้น ภาพถ่ายอาถรรพ์ยังไม่มา เราก็เลยใช้ภาพชั่วคราว แทนที่ภาพจริงกันไปก่อน

แล้วในที่สุด ภาพอาถรรพ์พวกนั้นก็มาถึง เกิดเรื่องน่าทึ่งมากมาย และมีบางอย่าง ที่ผมเองก็ไม่เข้าใจ

ซึ่งปัญหา มันก็เริ่มขึ้นที่นี่นั่นเอง

จากเรื่องราวในเกม ภาพถ่ายเหล่านี้ มันถูกส่งไปที่เด็กสาว เธอคือคนทรง

ในซองมีจดหมาย เรื่องราวสยดสยองมากมาย ถูกส่งมาจากผู้คน พร้อมกับภาพถ่ายติดผี

ใช่ พอเริ่มอ่านจดหมาย ผีก็จะเริ่มปรากฏตัว นั่นแหละ นี่มันเป็นเกม ที่ใส่นิยายสยองขวัญเข้าไป

ขั้นต่อไป ผมต้องถ่ายรูปใหม่ ๆ เอง เพื่อเพิ่มความหลากหลายในเกม เช่น รูปเที่ยวทะเล เที่ยวตามที่ต่าง ๆ

นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มหลายองค์ประกอบ ให้วิญญาณมองเห็นยากขึ้น อย่างพวก ลูกบอลไฟสีขาว ที่จะกระจายอยู่ทั่วหน้าจอ ก็นะ นี่มันเป็นเกมล่าวิญญาณนี่นา

ใช่ ภาพที่ดูธรรมดาพวกนั้น ผมถ่ายเอง

ตอนแรก ก็เหมือนภาพทั่วไป ถ้าเจอวิญญาณเข้า บรรยากาศความหลอนต้องมา พวกเขาต้องการแบบนี้ โดยการหาภาพถ่ายเพิ่ม ผมต้องทำไปเรื่อย ๆ อย่างน้อย ประมาณสามสัปดาห์เลยล่ะ

แล้วตอนนี้ ท่านประธานก็พูดขึ้นว่า นี่พวกเรา ใช้เวลาในการพัฒนาเกม มากเกินไปแล้วนะ

ในเมื่อภาพอาถรรพ์ที่มี มันเป็นภาพของจริงอยู่แล้ว ก็ควรทุ่มเทการทำงาน ในส่วนที่ทำยาก ๆ กันเถอะ ไม่งั้นเมื่อไหร่ เกมจะเสร็จล่ะ ?

ในแง่ของระบบเกม เราควรใส่ผีเพิ่มเข้าไป อย่างน้อยสองสามตัว ต่อภาพถ่ายอาถรรพ์หนึ่งภาพ ไม่ควรน้อยกว่านั้น ยกเว้นฉากไหน ที่เน้นผีเพียงตัวเดียว ก็กางภาพให้เต็มจอไปเลย

หลังจากประธานสั่งเดินหน้า คุณเคคาวะผู้จริงจัง ก็เริ่มงานภาพเช่นกัน

ลูกไฟวิญญาณที่ไม่จำเป็น ถูกสั่งให้ลบอออก ต้องขยายภาพวิญญาณ ให้มันมองเห็นได้ง่าย และต้องทำให้มันโดดเด่น ด้วยการแก้ไขค่าของสี

เรียกได้ว่า ภาพพวกนั้น ถูกนำไปผ่านกระบวนการ แบบตามใจโปรดิวเซอร์

แต่ที่แน่ ๆ คุณเคคาววะบอกว่า ส่วนที่เป็นวิญญาณต้นฉบับ ไม่ต้องไปวุ่นวายอะไรนัก

เอาแค่ หากรู้สึกว่า ในภาพมีวิญญาณน้อยไป ก็ให้นำภาพวิญญาณ จากภาพถ่ายอื่น ๆ มาแปะเพิ่มเลย แต่ถ้าไม่รู้สึกว่าน้อย ก็ให้เพิ่มหน้าผีเล็ก ๆ แล้วนำมายืดออกให้ผิดสัดส่วนแทน พูดตรง ๆ คนที่รับงานออกแบบตรงนี้ ดูเหมือนพวกเขาจะเริ่มหลอน

เพราะสิ่งที่พวกเขาทำ มันคือการไม่เคารพต่อวิญญาณ ที่อยู่ในภาพติดผีพวกนั้น อย่างแรง

ฝ่ายออกแบบ ดูจะเหนื่อยล้าอยู่ พวกเขาไม่ได้เหนื่อยแค่กาย แต่มันลามไปจนถึงจิตใจ ก็นี่มันเป็นงานไม่พึงประสงค์ เป็นการดูหมิ่นดวงวิญญาณคนตาย แม้หลายคนจะได้ค่าตอบแทน แต่กับนักออกแบบหญิงบางคน พวกเธอรู้สึกหดหู่ใจ แล้วก็ลาออกไป ทั้งที่ตัวงานยังคงทำค้างอยู่

ส่วนงานของผมตอนนี้ คือการทำยังไงก็ได้ ให้เวอร์ชั่นอัลฟ่าสำเร็จ ก่อนที่มันจะสายเกินไป

ผมติดต่อนักพากย์ ให้มาช่วยใส่เสียงไอเท็ม ก็ได้คุณจุนโกะ โนดะ มาให้เสียงนี่แหละ

ในเวอร์ชั่นเบต้า ภาพติดผีต้องมีแล้ว ในส่วนของเลเอาท์ ปุ่มบังคับ เครื่องหมายยันต์ต่าง ๆ ไปจนถึงส่วนของคำพูดในเกม เสร็จสมบูรณ์

ด้วยความที่ บริษัทเกมนี้มันขนาดเล็ก พนักงานฝ่ายพัฒนาและฝ่ายขาย จะต้องรับหน้าที่เป็นพาร์ทไทม์ เอางานขั้นต่อมาทำกันต่อ มันคืองานแก้ไขบั๊กต่าง ๆ เพื่อลดปัญหา เกี่ยวกับเวลาในการทำงานด้วย

ส่วนการตรวจบั๊กขั้นสุดท้าย มันจะสำคัญมากกว่านั้น มันเป็นงานละเอียด เกี่ยวกับความสมดุลของตัวเกม ทำให้ขั้นตอนตรงนี้ ต้องทุ่มเทเวลาให้กับเกม กันทั้งวันทั้งคืน

และกลางคืนนี่แหละ ที่มันน่ากลัว แต่ก็มีหลายคน เลือกจะตรวจเกมกันตอนกลางคืน มันเหมือนบททดสอบความกล้า ซึ่งตัวผมเอง ก็เป็นหนึ่งในไม่กี่คน ที่เลือกจะตรวจงานตอนกลางวัน

และในวันที่สองหรือสาม ของกระบวนการนั่นแหละ ผมเคลียร์ด่านไปจนถึงด่านที่ 6 แล้ว จู่ ๆ ก็มีเสียงดังกึกก้องขึ้นมา มันดังไปทั่วบริษัท พวกเพื่อนของผม ก็น่าจะได้ยินเสียงนั้นเหมือนกัน

มันเริ่มดังขึ้นเรื่อย ๆ จนผมรู้สึกว่า เสียงนั่น มันไม่ได้ยินมาจากทางหู มันเหมือนดังอยู่ในสมอง

ส่วนเพื่อนของผม ดูเหมือนเขาจะไม่สนใจอะไร หรือเขาจะไม่ได้ยิน งั้นเหรอ ?

กับคนอื่น ดูเหมือนจะยุ่ง ๆ กันอยู่ เสียงที่ผมได้ยิน มันดังมาจากไหน จากในเกมเหรอ ในฉากที่กำลังตรวจงั้นอยู่เหรอ ? แล้วทันใดนั้น ฝ่ายวางแผนเกม ที่กำลังตรวจบั๊กในเกมเช่นกัน ก็เกิดทรุดตัวลง ทั้งที่ในมือยังกำคอนโทรเลอร์อยู่ ดูเหมือนเธอจะส่งเสียงครวญคราง จนเมื่อเธอลืมตา เธอก็พูดพล่ามฟังไม่ได้ศัพท์

ผมรีบตามรถพยาบาล ผู้ป่วยถูกส่งตัว ตามรายงานจากเจ้าหน้าที่ พนักงานหญิงคนนั้น เธอเป็นลมบ้าหมู เธอได้รับการรักษา แล้วถูกส่งตัวกลับบ้านไป

ช่วงเวลานั้น เคยมีข่าวคล้าย ๆ กัน มันเกิดกับการ์ตูนโปเกมอน ที่ผู้ชมเด็ก ต้องมองภาพกระพริบเร็ว ๆ แล้วเกิดอาการช็อกขึ้นมา รู้ไหม เกมโปเกม่อนก็มีคนเป็นแบบนั้น มันเป็นข่าววงใน ของคนในวงการนะ เกิดขึ้นตอนช่วงพัฒนาเกม ในเวอร์ชั่นทดสอบความเรียบร้อย

หลังจากวันนั้นจบลง เช้าวันต่อมา ทีมพัฒนาก็มีเรื่องต้องหลอนกันอีก

เนื่องจาก ฝ่ายวางแผนเกมคนนั้น หลังจากเธอถูกส่งตัวกลับบ้าน เธอต้องถูกส่งกลับไปโรงพยาบาลอีกรอบ ดูเหมือนเธอคนนั้น จะใช้มีดทำครัว ตัดนิ้วโป้งขวาของตัวเอง เธอจำได้ว่าเธอทำมัน แต่เธอไม่รู้ว่าทำไมถึงทำแบบนั้นไป เธอตื่นเช้าขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด เธอหวาดกลัว เลือดเต็มไปหมด และนิ้วโป้ง ก็หายไป

เรื่องนี้ มันทำให้ทุกคน ถึงกับทำอะไรไม่ถูก ส่วนตัวผมเหรอ ได้แต่อึ้ง เพื่อนร่วมงานบางคน แสยะยิ้มแล้วพูดขึ้นมา “มันคือคำสาปชัด ๆ” นี่พวกนายกลัวกันหรือเปล่า ไม่ขำเลย

ผมทำงานต่อ แก้บั๊กต่อไป ท่ามกลางบรรยากาศเลวร้าย

แล้วงานแก้บั๊กคืนนั้น ก็มีอันต้องเกิดเรื่องอีก

ผมต้องรีบไปโรงพยาบาล แต่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรใหญ่โต พ่อแม่ของผมโทรศัพท์มา ท่านบอกให้ผม รีบโทรศัพท์ไปชี้แจงด้วย เพราะเรื่องที่เกิดในที่ทำงาน มันไปทำให้ทางโรงพยาบาล ต้องวุ่นวายกันนั่นแหละ

หลังจากผมโทรไป พ่อแม่ก็ถามผมว่า เรื่องแปลก ๆ ที่เกิดในที่ทำงาน มันเป็นยังไงมายังไงกันแน่ ซึ่งแน่นอน ผมได้แต่ขอโทษพวกท่าน รอบหน้า ผมจะให้คนอื่นเรียกรถพยาบาลละกัน

กลับมาที่ตัวเกม ผมต้องสู้กับดวงวิญญาณ มันเริ่มต้นในช่วงเล่นด้านที่ 6 เครื่องหมายยันต์ถูกใช้ไปทีละตัว บางที ฝ่ายวางแผนเกมคนนั้น เธออาจจะกดปุ่มตรงนี้ผิดรึเปล่า เพราะการกดผิดสองครั้ง แทนที่เราจะได้ยินเสียงผู้หญิงสะกดคำ มันจะกลายเป็นเสียงผู้ชาย ซึ่งผมเองก็กดผิด ทำให้ได้ยินเสียงผู้ชายดังขึ้นจากนั้น ผมก็มองอะไรไม่เห็น ทั้งที่ตอนนั้น ผมกำลังลืมตา

ผมได้แต่หวาดกลัว ไม่เข้าใจในสิ่งไร้เหตุผล จนกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง ตอนนั้น ผมก็อยู่ในรถพยาบาลแล้ว

สามวันต่อมา ทุกคนได้รับค่าแรง เพื่อน ๆ จึงพากันโดดงาน แล้วชวนผมไปดื่มกันที่ร้านประจำ

ทุกคนพูดถึงแต่เหตุการณ์หลอน ตอนที่ผมไม่รู้สึกตัวตอนนั้น มันทำให้ผมรีบสงบใจ ยกแก้วขึ้นมาดื่ม ก่อนที่จะพูดออกมาเบา ๆ ว่าผมกลัว ทุกคนก็น่าจะรู้สึกเหมือนกัน มันไม่ตลกเลย

หลังจากดื่มเสร็จ นอกจากผม ทุกคนกลับไปที่ออฟฟิศ งานตรวจเกมต้องหยุดชั่วคราว ด้านประธานเองก็ถึงกับอึ้ง หลังจากรู้เรื่องเสียงผู้ชายในเกม ที่ทำให้พนักงานอย่างผม ต้องเข้าโรงพยาบาล

เกิดการประชุมวาระด่วน ประธานได้มติออกมาว่า พนักงานที่หลบไปดื่มกัน จะต้องถูกพากษ์ฑัณฑ์ทุกคน เอาล่ะ กลับไปทำงานต่อ

ส่วนตัวผม หลังจากแยกกับเพื่อน ผมเดินทางไปที่ศาลเจ้า มันอยู่ในย่านชินจูกุ แล้วค่อยนำใบรับรองแพทย์ มายืนยันกับท่านประธาน แล้วก็กลับไปทำงานต่อ

ช่วงนั้น เกิดข่าวลือขึ้นมาว่า ในด่านที่ 6 และ 8 มันเป็นด่านที่มีความอันตราย โปรแกรมเมอร์จึงสร้างวิธีลัด เพื่อให้สามารถข้ามด่านทั้งสองไปก่อน เนื่องจากมีรายงาน พนักงานพาร์ทไทม์บางคน เกิดหูอื้อและเลือดกำเดาไหล ในช่วงระหว่างเล่นด่านที่ 8 ด้วย

ซึ่งวิธีลัดที่ว่า ได้กลายเป็นเทคนิคการโจมตีครั้งเดียว ที่มีผู้เล่นบางคนพบมัน และทำให้พวกเขาผ่านด่านกันได้อย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ ทางนักพากย์ คุณจุนโกะ โนดะเอง ก็กลายเป็นที่บูชา ในหมู่พนักงานบางคน พวกเขารู้สึกเหมือนได้กำลังใจ หลังจากได้ยินเสียงของเธอในเกม

ด้านคนทรง ที่ทำหน้าที่ดูแลแนวทางของเกม ก็นำเรื่องนี้ มาพูดคุยในองค์ประชุมด้วย

ผมได้ยินมาว่า ทางคนทรงคนนั้น ได้ทำการสวดภาวนาคาถา ก่่อนที่จะนำภาพถ่ายที่ใช้แล้ว กลับไปกับเขาทันที

แล้วการตรวจสอบ ในเวอร์ชั่นเบต้า ก็ได้เวลาจบสิ้นลง และตอนนี้มันก็ได้เวลา ที่ต้องตรวจสอบกัน ในขั้นตอนมาสเตอร์เกมแล้ว

เหล่าพนักงานพาร์ทไทม์ทิพย์ เกิดสามัคคีขึ้นมาทันใด ไม่มีใครวิตกกังวล เรื่องรับสองกะกันแล้วตอนนี้

ผิดกับคุณเคคาวะ เขาหยุดงานไปเลยดื้อ ๆ ท่ามกลางสมมติฐานว่า ตัวของเขานั้น อาจกำลังโดนคำสาปรือเปล่า

ตัวผมเอง ได้ยินมาจากทางบริษัทว่า คุณเคคาวะ ก็ไปที่โรงพยาบาลเหมือนกัน และมันก็เป็นโรงพยาบลเดียวกัน กับที่ผมเคยไปรักษาก่อนหน้า ผมรู้เรื่องนี้ ตอนไปรับยาที่แผนกจิตเวช

ก่อนถึงกำหนดมาสเตอร์เกม คุณเคคาวะโทรศัพท์มา เขาบอกว่า ตอนนี้อาการดีขึ้นแล้ว และจะกลับมาทำงาน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป แต่เมื่อถึงตอนประชุมทีม คุณเคคาวะกลับไม่ได้มาเข้าร่วม

เท่าที่ทราบ รอบประชุมของทีมทำงาน ประธานไม่ได้เรียกคุณเคคาวะ เขาเรียกเฉพาะพนักงานมาคุย ส่วนกับคุณเคคาวะ ท่านประธานขอคุยกับเขาตามลำพัง หลังจากประชุมในช่วงตอนเย็น ที่ถือว่า มันมีอะไรแปลก ๆ

จนวันรุ่งขึ้น พวกเราก็ได้ข่าวร้าย คุณเคคาวะเสียชีวิต มีผู้พบตัวเขาแขวนอยู่ในห้องน้ำ แถวสถานีรถไฟแห่งหนึ่ง ที่สถานีนั้น มันอยู่ในบริเวณใกล้เคียง กับรูปภาพสถานที่ที่ถูกใช้ในเกม เป็นจำนวนถึง 6 ภาพ

ทันทีที่ผมรู้ ผมเห็นพนักงานบัญชี ถึงกับเดินหนีออกจากบริษัทไป เนื่องจากความหวาดกลัว

ท้ายที่สุด ตัวเกมก็ออกวางจำหน่าย ความสมดุลในเกมรุ่งริ่ง กราฟิกไม่มีอะไรสมบูรณ์ เพราะคนออกแบบไม่ชอบมัน บรรยากาศในเกม ดูเหมือนเกมราคาถูก ราวกับเป็นเกมตลาดล่าง

ระดับความยาก ในฉากที่หกของเกม ถูกตัดทอนลงไปพอสมควร ชื่อของผู้กำกับเกมถูกลบออก ประธานเขาขอให้มันเป็นเช่นนั้น เหล่าพนักงาน ที่ร่วมพัฒนาเกมทุกคน ก็ถูกตัดชื่อออกไป เหลือเพียงชื่อไม่กี่ชื่อ ที่อยู่ทำงานจนถึงขึ้นตอนสุดท้าย

มีผู้เล่นบางคน ที่สามารถเคลียร์เกมนี้ได้ พยายามช่วยกันบอกต่อ ว่าเกมนี้มันมีดีของมันอยู่บ้าง พวกเขาบอกสิ่งที่ตัวเองทำ ให้กับทีมพัฒนาที่พอจะติดต่อได้ แต่กลายเป็นว่า หลังจากที่ส่งเรื่องราวให้รู้ นักพัฒนาทุกคน กลับไม่แสดงทีท่าตอบรับใด ๆ และทางบริษัทเกมเอง ก็ล้มละลายในเวลาต่อมา

ส่วนเพื่อนของผม เขาก็ไปทำงานอื่น ที่ไม่เกี่ยวกับเกมอีกต่อไปแล้ว

ผมลองถามเขานะ “มีอะไรผิดปกติ ระหว่างพัฒนาาเกมหรือเปล่า” เพราะกับตัวผม ทุกครั้งที่่นอนหลับตา ผมจะไม่สามารถลืมตากลับขึ้นมาได้ ทัั้งที่ตอนนั้น ผมยังรู้สึกตัวอยู่แท้ ๆ และที่สำคัญ ผมจะหายใจไม่ออก

เขาตอบผมว่า ตัวของเขาเอง ก็นอนไม่หลับอยู่พักใหญ่เหมือนกัน เพราะกลัวนั่นแหละ

ตอบแบบเด็ก ๆ เลย



--------------------------------------------------------------------

ก็จบลงแล้วนะครับ โควาย ชาชิง โควาย ชาชิง ตำนานเกมอาถรรพ์บนเครื่องเพลย์สเตชั่นยุคบุกเบิก !!! หรือ Kowaishashin 〜 shinrei shashin kitan 〜มันเป็นครีบปี้พาสต้าจากเกม โดยผู้เขียนนิรนามท่านหนึ่ง เขาไม่ได้บอกชื่อตัวเองเอาไว้ ทำให้เราไม่รู้ ว่าคนที่เขียนชื่ออะไรกันแน่ นอกจากคำกล่าวอ้างที่ว่า เขาเคยทำงานอยู่ในทีมทำเกมนี้

โดยการเล่าเรื่องนี้ มาจากคุณลูซิ ลาน้อย คิคุโอ สมาชิกในกลุ่มมิติที่ 6 บนเฟสบุก ได้แชร์มาจากเพจดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ ที่แอดมินเพจโพสต์ว่า “ฝากคนไปถามมิติที่ 6 ว่า Kowai Shashin เป็นตำนานจริงหรือไม่” โดยในโพสต์ดังกล่าว คุณแคมมี่เจ้าของเพจ ได้เล่าเรื่องย่อไว้อีกรูปแบบ โดยระบุว่า โควายชาชิง มันเป็นเกมของบริษัท มีเดีย เอนเตอร์เทนเมนต์ ที่ทำขายออกมาในปี 2002 และลิสต์ชื่อทีมทำงาน ที่ไม่พบว่า จะมีชื่อของเคคาวะ อยู่ในรายชื่อทำงานเลย ซึ่งนั่นก็ทำให้การค้นหาความจริง ว่าบริษัทผู้ผลิตเกมนี้ มีประวัติความเป็นมาอย่างไร ได้ผลออกมาว่า

มีเดีย เอนเตอร์เทนเมนต์ เป็นบริษัทพัฒนาเกมของญี่ปุ่น ถูกก่อตั้งเมื่อปี 1993 เป็นรูปแบบบริษัทจำกัด ทุนจดทะเบียน 50 ล้านเยน มีพนักงานทั้งสิ้น 50 คน ประธานบริษัทชื่อคุณฟูมิโอะ โองาวะ ที่ลาออกมาจากบริษัทเจแปนเทเลเน็ต ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาเกมเช่นกัน โดยในปี 1995 มีเดียเอนเตอร์เทนเมนต์ ได้ปรับรูปแบบบริษัทใหม่ หันมาทำเกมจำลองตู้ปาจิงโกะ ขายบนเครื่องเพลย์สเตชั่นวัน ชื่อ Pachislot Emperor Series จำนวนทั้งสิ้น 23 เกม วางจำหน่ายตั้งแต่ปี 1999 ถึงปี 2002 และทำเกมต่อมาอีก 3 เกม อยู่ในซีรี่กรูเม่ต์หรือแนวทำอาหาร ก่อนที่โควายชาชิง จะออกวางจำหน่ายในวันที่ 25 กรกฎาคม ปี 2002

ลำดับต่อมา มีเดียเอนเตอร์เทนเมนต์ ได้วางขายอีกเกม คือเกม Korokoro posutonin เป็นเกมแนวแอคชั่น ตัวเอกเป็นสาวส่งหนังสือพิมพ์ วางขายช่วงต้นปี 2003 ก่อนที่จะวางขายเกมสุดท้าย ชื่อYakiniku bugyō bonfaia! ที่ถือเป็นเกมในซีรี่กรูเมต์ ในวันที่ 14 สิงหาคม ในปีนั้น

จะเห็นได้ชัดเจนว่า หลังจากโควายชาชิง วางจำหน่ายในช่วงปี 2002 มีเดียเอนเตอร์เทนเมนต์ ยังคงทำเกมต่อมาอีกถึง 1 ปีเต็ม แต่ด้วยโปรดักชั่นของทุกเกม มันดูไม่สุดเหมือนเกมค่ายอื่น จึงทำให้ตัวบริษัท ต้องขายลิขสิทธิ์เกมในซีรี่กรูเมต์ ให้กับทางบริษัท G Mode ไปทั้งหมด ก่อนที่จะปิดตัวเองลง

ด้านรายชื่อคณะจัดทำ ของเกมโควายชาชิง มีทั้งหมดประมาณ 26 ท่าน โปรดิวเซอร์ของทีมที่ทำเกมนี้ ชื่อคุณอัตสึโกะ ฮายาคาว่า ที่น่าจะเป็นคุณเค คาว่า ที่เรื่องเล่าขอเรียกชื่อเธอแบบย่อ ๆ ไม่มีชื่อของตำแหน่งคนทรง แต่มีรายชื่อโปรดักชั่นทุกส่วนครบ มีแม้กระทั่งรายชื่อฝ่ายสนับสนุน ที่หลายเกมมักจะเพิ่มชื่อเพื่อให้เกียรติ ทุกอย่างมันดูปกติ หรือถ้ามันจะดูไม่ปกติ ก็คงเป็นที่จำนวนทีมถึง 26 ท่าน มันดูจะมีมากเกินไป หากเทียบกับโปรดักชั่นของเกม ที่เป็นไปได้ว่า อาจมีการลาออกและเข้ามาแทนที่ ในตำแหน่งทำงานต่าง ๆ ที่ถือเป็นเรื่องปกติ ของบริษัทเกมอยู่แล้ว ถ้าไม่เชื่อ ลองเมล์ไปถามบริษัทเกมไหนดูก็ได้ครับ ที่ผู้บรรยายทราบเรื่องนี้ เพราะผู้บรรยาย รู้จักกับบริษัททำเกมอยู่พอสมควร พวกเขามีคนทำงานลาออกและเข้าใหม่ โดยจะใส่ชื่อผู้มีส่วนในเกมทุกคน ไว้ในเกมที่วางจำหน่ายเป็นปกติครับ

และด้วยข้อมูลทั้งหมด ทำให้สามารถสรุปได้ว่า ครีบปี้พาสต้าเรื่องโควายชาชิง มันไม่ใช่เรื่องจริงแน่นอน เพราะผู้ที่แต่งเรื่อง ไม่สามารถระบุไทม์ไลน์ ไปจนถึงชื่อเกมอื่นของบริษัทได้ ไม่รู้แม้แต่ปีที่บริษัทปิดตัว ไม่รู้แม้กระทั่งเกมดัง ๆ ของบริษัท อย่างในซีรี่ปาชิงโกะ ซีรี่กรูเมต์ และโคโรโคโร โพสต์นิน ที่ได้รับคำชมในแง่บวก มากกว่าโควายชาชิง ซึ่งคนที่แต่งเรื่องนี้ น่าจะเป็นแค่คนที่ซื้อโควายชาชิงมา แล้วเห็นถึงความไม่เข้าท่าของเกม จึงทำให้คิดเนื้อเรื่องชวนหลอนนี้ขึ้น ซึ่งก็ขอย้ำอีกครั้งว่า มันเป็นแค่เรื่องแต่ง

แต่ก็อย่างที่บอกกันบ่อย ๆ ว่าถ้าหากมีใคร นำครีบปี้พาสต้า อย่างเรื่องโควายชาชิง มาเล่ากันในวงสนทนา แล้วบอกว่ามันเป็นเรื่องจริง มิติที่ 6 ก็อยากจะบอกว่า ขอจงอย่าไปทำอะไร ที่จะทำให้การเล่านั้น ต้องหยุดชะงักไปจะดีกว่า นั่นก็เป็นเพราะว่า ความจริงนั้น มันช่างไม่มีสเน่ห์ เอาเสียเลย

แล้วอย่าลืมติดตามรายการมิติที่ 6 ศุกร์สยองขวัญ กับเรื่องราวเบา ๆ ในวันศุกร์สะดวก ที่ศุกร์ไหนไม่สะดวก ก็อาจจะต้องมีเว้นกันบ้าง และหลังจากจบรายการแล้ว อย่าลืมกดสัปสไครป์ กดไลค์ กดแชร์ และอย่าลืมทิ้งคอมเมนต์กันเอาไว้ด้วยนะครับ ยังมีเรื่องราวต่าง ๆ อีกมากมายรอคุณอยู่ สำหรับวันนี้ สวัสดี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ประกาศ

เพื่อเป็นกำลังใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กับเรา ขอความร่วมมือจากผู้ที่นำเรื่องราวจากมิติที่ 6 ไปใช้ในที่ของท่าน กรุณาลงเครดิตกลับมาที่เราจะเป็นพระคุณอย่างสูงครับ